อัยการแคนาดาแถลงปิดคดี “เมิ่ง ว่านโจว” ศาลกำหนดวันพิพากษา 21 ตุลาคมนี้
รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พนักงานอัยการแคนาดา รวมทั้งทีมทนายความประจำตัว นาง เมิ่้ง ว่าน โจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัทหัวเว่ย ขึ้นแถลงปิดคดีการส่งตัวนางเมิ่ง ให้กับสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาว่า ฉ้อฉล ด้วยการกระทำที่เป็นเหตุให้ธนาคาร เอชเอสบีซี เข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัทหัวเว่ยกับประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นการละเมิดการแซงก์ชันของสหรัฐอเมริกา
นายโรเบิร์ต เฟรเทอร์ อัยการยืนยันในการกล่าวปิดคดีว่า จำเลยไม่สามารถอาศัยทั้งข้อเท็จจริงหรือแง่มุมของกฎหมายมาแก้ต่างให้กับตนเองได้ในคดีฉ้อฉลดังกล่าว ซึ่งทางการสหรัฐฯมีหลักฐานแน่นหนา พร้อมกันนั้นก็ย้ำว่า นางเมิ่งได้รับการไต่สวนคดีอย่างเป็นธรรมที่สุดเท่าที่ผู้ต้องหาในคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในแคนาดาได้รับมา
ทางด้านทนายจำเลยแถลงปิดคดี อ้างว่า นางเมิ่งไม่ควรถูกส่งตัวให้กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ทางการแคนาดาเข้าใจไขว้เขวในคดี ด้วยการสรุปหลักฐานกล่าวหานางเมิ่้งอย่างบิดเบือน, มีการ แสดงความคิดเห็นของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีนี้จนเป็นเหตุให้การไต่สวนไม่เป็นไปตามปกติ และ อ้างว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว การกระทำฉ้อฉลไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ
ฮีเธอร์ โฮล์มส์ ตุลาการสมทบศาลสูงสุด ประจำรัฐบริติช โคลัมเบีย ของแคนาดา จะต้องพิพากษาโดยอาศัยพื้นฐานตามหลักฐานที่ปรากฏ โดยกำหนดวันแถลงคำพิพากษาในคดีนี้ในวันที่ 21 ตุลาคม
นางเมิ่ง ว่านโจว อายุ 49 บุตรีของผู้ก่อตั้ง หัวเว่ย เทคโนโลยี ถูกควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 โดยต่อมาได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี โดยต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่เอกชนซึ่งจะทำหน้าที่เฝ้าระวังตัวนางเมิ่ง 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน ตามเงื่อนไขของการประกันตัว
ข่าวระบุว่าหาก ผู้พิพากษาโฮล์มส์ พิพากษาให้มีการส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ทางรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของแคนาดาจะเป็นผู้ตัดสินใจชี้ขาดอีกครั้งว่าจะดำเนินการตามคำพิพากษาหรือไม่ หรือไม่ก็อาจพิพากษาให้ดำเนินคดีของนางเมิ่งในแคนาดาต่อไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องส่งตัวให้กับสหรัฐอเมริกา หากเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ
คำพิพากษาดังกล่าว จำเลย ยังคงสามารถอุทธรณ์ได้ ซึ่งทำให้นักสังเกตการณ์เชื่อว่า คดีนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานหลายปีกว่าจะสิ้นสุด
