อดีตผู้การกองปราบ ยกหลักพฤติกรรมศาสตร์ ชี้เคสผกก.โจ้ คลั่งอำนาจ ประจานระบบ

พล.ต.ต.สุพิศาล อดีตผู้การกองปราบ ยกหลักพฤติกรรมศาสตร์ ชี้เคสผกก.โจ้ เป็นปัญหาเชิงระบบตร.เอื้อจนท.คลั่งอำนาจ 

จากกรณี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์คลิปวิดีโอการก่อเหตุทรมานผู้ต้องหา โดยระบุว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องโทษคดีค้ายาเสพติด เพื่อรีดเงิน 2 ล้านบาท แลกกับคดี กระทั่งล่าสุด ศาลอนุมัติหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์  กับพวกรวม 7 คนในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนาในคดีดังกล่าวแล้วนั้น

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด (25 ส.ค.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตผู้บังคับการกองปราบ ได้โพสต์ข้อเขียน วิเคราะห์กรณี “ผกก.โจ้” ซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต พร้อมระบุว่า ย้ำอีกครั้ง ถึงเวลาแล้ว “ปฏิรูปตำรวจ” ขนานใหญ่ !!! โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ระบบของโครงสร้างตำรวจ โดยเฉพาะเจ้าพนักงานที่ถือบัตร ป.ป.ส. 2.อำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์ สายสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโต และ 3.สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย

Advertisement

นี่คือสิ่งที่ทำให้ ผู้กำกับหนุ่มมีความโอหัง กล้าที่จะลงมือซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต และเป็นข่าวใหญ่ที่ช็อคสังคมไทยในเวลานี้

ทั้งนี้ ในฐานะส.ส. ผมได้อภิปรายเสนอแก้ ร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานไปเยอะมาก เพราะผู้ถือบัตร ป.ป.ส.ที่ใช้อำนาจนี้ต้องระวัง เพราะขบวนการค้ายาเสพติดนั้นมันมีสิ่งเย้ายวนหอมหวนเยอะ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากการขัดเกลาหรือการที่สังคมตำรวจปล่อยปละละเลยปัญหาเรื่องนี้มานานมาก

Advertisement

ย้ำกันอีกครั้ง ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ปฏิรูปตำรวจ ขนานใหญ่

ในฐานะอดีตข้าราชการตำรวจ และมีประสบการณ์ในคดียาเสพคดีมากว่า 30 ปี ผมให้ความเห็นกรณี “ผู้กำกับโจ้” ว่าเป็นปัญหาเชิงระบบ ที่ให้อำนาจหลายอย่างกับเจ้าหน้าที่ผู้ถือบัตร ป.ป.ส. ซึ่งอำนาจนี้ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนที่มีอยู่อย่างไร ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งก็ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งอย่างไร” 

นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุพิศาล ยังวิเคราะห์ผ่าน รายการ เจาะลึกทั่วไทย inside thailand ถึงกรณีดังกล่าว ตอนหนึ่งว่า จากการดูประวัติการทำงาน ผู้กำกับโจ้เคยอยู่หน่วยปราบปรามยาเสพติดมาก่อน คงมีประสบการณ์การทำงานมายาวนาน ประเด็นหลักกรณีนี้ที่ทำให้ผู้กำกับโจ้ กล้าลงมือ จนกระทั่งมีเนื้อหาอย่างที่ปรากฏในคลิปนั้น เกิดจากการขัดเกลาที่สังคมตำรวจ ปล่อยปะละเลย โดยเฉพาะการให้อำนาจเจ้าพนักงานป.ป.ส. ใช้เพื่อปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด

ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้กำกับโจ้มีบัตรป.ป.ส. มีอำนาจในการเป็นเจ้าพนักงานป.ป.ส.เข้าไปเหนี่ยวรั่ง หรือหยุดกระบวนการค้ายา แต่เมื่อเข้าไปมากๆแล้ว ต้องยอมรับกระบวนการค้ายานั่น มันหอมหวน เพราะมีดมี 2 คมด้านหนึ่ง จะใช้อำนาจทำเพื่อประชาชน อีกด้านหนึ่งที่ซุกไว้ในเงามืด คือความต้องการผลประโยชน์ เมื่อสุกงอมขึ้นมา ความรับผิดชอบทางโลก จึงไม่สามารถหยุดยั้งการได้มาซึ่งผลประโยชน์มากมายจากผู้ค้ายา

จากเนื้อหาในคลิปเกิดขึ้นจากลูกน้องร้องเรียน สะท้อนว่า สังคมในชุมชนของตำรวจเองก็ยังไม่ยอมรับ ตามหลักพฤติกรรมศาสตร์ การลงมือเช่นนี้เกิดขึ้นสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย อำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์ที่มีกลับเอาไปใช้ในทางที่ผิด มีความโอหังจากการมีอำนาจรัฐในมือ จากแบล็คกราวจากประวัติของเขามันบอกว่า เขาคือใคร จากข่าวก็ระบุชัดว่า เขาประกาศว่า เขาคือคนของใคร อยู่ในอาณัติใคร นี่จึงทำให้นายตำรวจระดับผู้กำกับการ จึงมีความหยิ่ง ยโส มีความรุนแรงในการปกครอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image