ตำรวจภาค5รวบเครือข่ายยาบ้า-ของกลางกว่า5แสนเม็ด เผยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง

ตำรวจภาค5รวบเครือข่ายยาบ้า-ของกลางกว่า5แสนเม็ด เผยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง-ผู้สั่งการหนีหมายจับอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่งซิกแชร์โลเคชั่นให้ลูกค้ามารับเอง

วันที่ 28 สิงหาคม  ที่หน้า สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวน และ พ.ต.อ.ธวัฒน์ชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายเอกชัย จิโนบัว อายุ 34 ปี ชาว อ.แม่ออน และนายเตชา ตาจันทร์ดี อายุ 41 ปี ชาว อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 482,000 เม็ด ที่บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ

โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรับแจ้งเบาะแสว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดรายกลางจะลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่เชียงใหม่และลำพูน โดยจะกระจายยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้าน จึงสืบสวนและติดตามพฤติการณ์อย่างต่อเนื่อง จนพบว่านายเอกชัยไปเช่าหอพักในเขตหมู่บ้านนิคมสหกรณ์ ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย เพื่อเป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพดิด ก่อนที่จะนำยาเสพติดไปกระจายให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในหมู่บ้านและชุมชน จนกระทั่งวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นห้องพักพบยาบ้าอยู่ในห้องพักจำนวน 346,000 เม็ด จึงขยายผลจับกุมนายนายเตชา  ผู้ต้องหาอีกรายพร้อมของกลางยาบ้า 30,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนในหอพักเขตหมู่บ้านนิคมสหกรณ์ หมู่ที่ 7 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย

Advertisement

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่แตง ก่อนนำมาพักไว้ที่หอพักเพื่อนำไปส่งมอบให้ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในหมู่บ้าน โดยมีนายพลาวุธ หิรัญวิจิตร หรือกรี ซึ่งหลบหนีหมายจับไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้สั่งการ อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลหาครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่เป็นผู้จำหน่ายและสั่งการ

พล.ต.ต.วีรชน กล่าวว่า ผู้ต้องหา 2 รายนี้รู้จักกันในเรือนจำเชียงใหม่ หลังจากพ้นโทษออกมาก็ชักชวนกันมาค้ายาเสพติด แนวทางการสืบสวนต้องใช้เทคนิคค่อนข้างมาก เพราะผู้ต้องหาจะไม่เดินทางมาส่งยาบ้าโดยตรง แต่จะนำยาบ้ามารอพักไว้ จากนั้นก็จะส่งโลเคชั่นทางแอปพลิเคชั่นไลน์ไปผู้สั่งการที่หลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นผู้สั่งการก็จะส่งโลเคชั่นให้ผู้รับ เพื่อนัดไปไปรับยาบ้า และผู้ต้องหาจะนำยาบ้าไปวางไว้ตามจุดนัดหมาย โดยทั้งผู้ส่งและผู้รับแทบไม่เจอหน้ากัน วิธีการนี้เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม และจะเห็นว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับในประเทศเพื่อนบ้านยังมีอิทธิพลในการสั่งการอยู่ค่อนข้างมาก

Advertisement

“ผู้ต้องหาทั้งสองคนติดคุกมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้เป็นผู้ค้าระดับรายย่อย กระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี จึงยกระดับเป็นผู้ค้ารายกลาง ไปรับยาเสพติดมาจำหน่ายเอง และทำมาแล้ว 3 – 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นยาบ้า หรือบางครั้งก็จะโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง”

พล.ต.ต.วีรชน กล่าวว่า สำหรับยาบ้าล็อตนี้ รับมาจากชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่วนยาบ้าเป็นของเครือข่ายมูเซอ ที่มีโรงงานผลิตอยู่ในชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปีงบประมาณต่อไปนโยบายของสำนักงานตำรวจแหล่งชาติจะเน้นปราบปราบเครือข่ายค้ายาเสพติดที่นำมาจำหน่ายให้ผู้ค้ารายย่อย จนมีการแพร่ระบาดในชุมชนและสถานศึกษา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image