รอง ผบ.ตร.แถลงตำรวจ ปส.จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 3 คดี ผู้ต้องหา 4 คน ยาบ้า 4,000,000 เม็ด กัญชา 800 กก. เฮโรอีน 10 กก.

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี  คดีแรกจับกุมนางวลิตดา นาคสวน อายุ 35 ปี และนางเพ็ญนภา ภัทรเจริญ อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้า 4,000,000 เม็ด รถกระบะสี่ประตู นิสสัน รุ่นนาวารา ทะเบียน ขข  1612 ขอนแก่น รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน 1 กอ 3936 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมนายบุดดา สมแพง กับพวกรวม 3 คน พร้อมยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด ขยายผลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลในเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องคือ นางวลิตดา กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้าน จ.หนองคาย ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง นางวลิตดา กับพวกใช้รถกระบะนิสสัน และรถเก๋งโตโยต้า ลักลอบลำเลียงยาเสพติด กระทั่งคืนวันที่ 24 ส.ค. ต่อเนื่องวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าขับมุ่งหน้า อ.สังคม จ.หนองคาย ระหว่างทางพบรถกระบะนิสสันขับติดตามกันไปผ่าน จ.อุดรธานี เข้า จ.เลย  สกัดจับรถกระบะนิสสัน มีนางวลิตดา เป็นคนขับพร้อมยาบ้า 4,000,000 เม็ดบริเวณริมถนนหมายเลข 21 สายด่านภูเรือ-ด่านซ้ายเขตพื้นที่บ้านศาลาน้อยหมู่ 25 ต.โปง อ.ด่านซ้าย จ.เลย และสกัดจับรถเก๋งโตโยต้า มีนางเพ็ญนภา เป็นคนขับบริเวณจุดตรวจจุดสกัดโป่งชีม ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย และจะขยายผลผู้ร่วมขบวนการ พร้อมทั้งนำผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.มนูกล่าวว่า คดีที่สอง เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา จับกุมนายทวีศักดิ์ วงศ์อุดม อายุ 33 ปี พร้อมกัญชา น้ำหนัก 800 กก. รถกระบะฟอร์ด สีดำ ทะเบียน 2 ฒอ 1077 กรุงเทพมหานคร แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจ้าหน่ายโดยผิดกฎหมาย สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมนายอริย์ธัช สุขสบาย พร้อมยาบ้ากว่า 5 แสนเม็ด และยาไอซ์กว่า 20 กิโลกรัม ได้ที่อ.สีคิ้ว จ. นครราชสีมา ขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติตของเครือข่ายมีความเคลื่อนไหวจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ต่อมาพบกลุ่มเป้าหมายเดินทางไปยังพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ. นครพนม ขึ้นไปยังพื้นที่ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เชื่อว่าไปดำเนินการเกี่ยวกับการลำเลียงยาเสพติด ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ถึงพื้นที่ อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สระบุรี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เดินทางไปรับยาเสพติด ครั้งนี้มาจาก อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ส่งปลายทางที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างขนลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ 300,000 บาท นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีสุดท้ายจับกุม นายญาณธนิก มณีญาณิน อายุ 54 ปี พร้อมเฮโรอีน 10 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนมาภายในคัทซี และใต้ช่องเก็บของป้ายกระบะของรถมิตซูบิชิ สตราด้า สีเทาดำ ทะเบียน 3 ฒฌ 1909 กรุงเทพมหานคร แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้บนถนนวัชรวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา  สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่าจะมีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดกลุ่มซ่อนใต้กระบะมาจากพื้นที่ภาคเหนือ จึงติดตามข้อมูลจนกระทั่งพบรถเป้าหมายจึงติดตามมาในพื้นที่กรุงเทพฯย่านวัชรพลจึงเข้าตรวจค้นรถกระบะต้องสงสัยพบว่ารถคันดังกล่าวไม่มีหลังคาอีกทั้งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดพบลักษณะน่าสงสัยคือบริเวณช่วงล่างแหนบคัทซีมีการดัดแปลงยกสูงผิดปกติ จึงแจ้งผู้ต้องหาขอเข้าตรวจค้นโดยนำไปผ่าตรวจดูที่อู่รถแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียงและเมื่อยกกระบะท้ายขึ้นพบว่ามีการทำช่องตู้เซฟซ่อนไว้ด้านใต้พร้อมของกลางยาเสพติดเฮโรอีนจำนวน 10 กิโลกรัม ทั้งนี้ จากข้อมูลการตรวจสอบการจับกุมที่ผ่านมาพบว่าการขนส่งมีลักษณะดังกล่าวมีบ่อยครั้งโดยพบครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2563 ที่จังหวัดอ่างทองครั้งต่อมาเดือนมิถุนายนปีเดียวกันโดยบรรทุกยาบ้า2 ล้านเม็ดเหมือนกัน จากนั้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทยาเสพติดเป็นยาบ้า 2 แสนเม็ดไอซ์ 52 กิโลกรัม นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดี

Advertisement

พล.ต.อ.มนูกล่าวว่า คดีที่ 3 ตำรวจสืบทราบแล้วว่าผู้ที่เป็นเจ้าของยาเสพติดจำนวนดังกล่าวคือใครรวมถึงหัวหน้าเครือข่ายที่ใช้รูปแบบการซุกซ่อนขนส่งดังกล่าวตอนนี้จะเตรียมขยายผลเพื่อดำเนินการเข้าจับกุมตามขั้นตอนต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image