ทีมสอบกองปราบถก 6 ก.ย.กำหนดทิศทางคดี ผกก.โจ้ ให้โรงพักท้องที่เอาผิดดาบโบ้ซุกยา

6 ก.ย.กองปราบ เตรียมหารือกำหนดทิศทางคดี ผกก.โจ้ แจ้งเอาผิดครอบครองยาเสพติดดาบโบ้เพียงคนเดียว แยกคดีให้ท้องที่รับผิดชอบ

รายงานข่าวเมื่อวันที่ 4 กันยายนแจ้งว่ส สำหรับความคืบหน้าในส่วนสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องรวม 7 คน ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ นายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในเซฟเฮาส์ “บ้านกาแฟ” ด้านข้างโรงพักจนเสียชีวิตนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 คน รวมถึงพยานบุคคลต่างๆ จนเกือบครบถ้วนรวม 40 ปาก และในวันจันทร์ที่ 6 กันยายน จะมีการเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด ที่ ห้องประชุมกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานต่อว่ายังมีประเด็นใดที่ต้องสอบปากคำ หรือสืบหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคณะทำงานเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในภาพรวมของคดีอีกด้วย

ข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในกรณีมียาเสพติดไว้ในครอบครองนั้น จะเป็นการแยกทำสำนวนออกมาอีกคดี โดยมี สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นมีการแจ้งเพิ่มเติมเฉพาะแค่เพียง ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว หรือดาบโบ้ เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวก คนอื่นๆ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่พบความเกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ดำเนินแจ้งข้อกล่าวหา “ครองครองยาเสพติด” แก่ ด.ต.วิสุทธิ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะมีการย้ายเรือนจำเมื่อ 3 กันยายน

ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ดำเนินการเอาผิดข้อหา ครอบครองยาเสพติดเฉพาะเพียง ด.ต.วิสุทธิ์ นั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 และภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นตามบ้านพักต่างๆ ของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อตรวจหาและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนไปพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในห้องพักหนึ่งของ ด.ต.วิสุทธิ์ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาคนอื่นๆ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ก่อนที่ต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 1-2 กันยายน ทางตำรวจภูธรภาค 6 และภูธรจังหวัดนครสวรรค์ จะมีการนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อีกครั้ง แต่เป็นการเข้าตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับอาการป่วยไบโพลาร์ ตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงยารักษาโรคและยาสามัญประจำบ้านทั่วไป ไม่ใช่ยาที่เกี่ยวกับอาการป่วยไบโพลาร์ หรือสารเสพติดตามที่เคยมีกระแสข่าวออกมาแต่อย่างใด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image