PROEN เปิดมิติใหม่ให้บริการคลาวด์แบบเติมเงิน-จ่ายตามใช้จริง ลุยแพลตฟอร์มบล็อกเชน-คริปโตฯ

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) (PROEN) ผู้ดำเนินธุรกิจ Internet Data Center แบบครบวงจร เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ โดยเตรียมเปิดให้บริการคลาวด์แบบเติมเงิน จ่ายตามใช้จริง ภายในไตรมาส 3 นี้ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มหันมาทำงานที่บ้าน Work from home มากขึ้น ป้องกันผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

“เรายังคงมองหาโอกาสการเติบโตใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากเปิดให้บริการคลาวด์แบบเติมเงินที่เป็นการเปิดมิติใหม่สำหรับวงการ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการให้บริการได้ง่ายขึ้นจากเดิมมีข้อจำกัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่อยู่ในระดับสูงแล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาธุรกิจใหม่ แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการบริการและโซลูชั่นด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ ใช้ระบบ GPS ในการควบคุม ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเข้ามาเป็นยอดขายและสร้างรายได้ประจำ (Recurring income) ให้กับบริษัทฯเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้”

นายกิตติพันธ์กล่าวว่า นอกจากนี้ PROEN ยังสนใจการลงทุนสร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชน และคริปโตเคอร์เรนซีเป็นของตัวเอง เพราะมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยขณะนี้ได้มีการเดินหน้าดำเนินงานไปบางส่วนแล้วน่าจะชัดเจนภายในปลายปีนี้ และมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานธุรกิจก่อสร้างงานโครงการด้านโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ล่าสุดในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทได้งาน 2 โครงการขนาดใหญ่ เป็นงานรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ของระบบรถไฟฟ้าสำหรับ Station โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง มูลค่า 343.54 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิงหาคม งานในมือรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็น 1,007.63 ล้านบาท

Advertisement

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในช่วงของการขยายการลงทุน เพิ่มพื้นที่ให้บริการศูนย์จัดเก็บศูนย์ข้อมูล (Internet Data Center) ให้ได้อีกไม่น้อยกว่า 3,000 ตารางเมตร ซึ่งจะสามารถเพิ่มการให้บริการลูกค้าได้อีกไม่น้อยกว่า 1,000 ตู้ รองรับความต้องการของลูกค้า  E-Commerce, เกม Online และการชำระเงินผ่านระบบ Online เพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจ ICT ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง 87% ของรายได้รวม ยังทำรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากการขายและบริการ จำนวน 68.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคม และให้บริการด้าน ICT เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่ให้บริการด้าน E-Commerce และ Game Online และบริการ Cloud ใหม่ของบริษัท เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000% จากปีก่อน

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image