10 กันยา ‘5 แนวร่วม ปชต.’ จัดคาร์ม็อบ ‘ยืน หยุด ขัง’ ร้องศาลอาญา-ม็อบหน้าเรือนจำ ขอความเป็นธรรม ‘ปล่อยเพื่อน’
เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ทะลุฟ้า และ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เดินทางมารวมตัว เพื่ออ่านแถลงการณ์การเคลื่อนไหวของเครือข่ายและแนวร่วมประชาธิปไตย #ยื่นหยุดขัง
โดยเวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือ เจมส์ แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, นักกิจกรรมเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี สมาชิกกลุ่มโมกหลวงริมน้ำจำนวนหนึ่ง ได้นั่งพัก รับประทานอาหารภายในร้านแมคโดนัลด์ เพื่อรอนักกิจกรรมกลุ่มอื่นๆ เดินทางมาสมทบ พร้อมระบุว่า จะเริ่มอ่านแถลงการณ์ในเวลาประมาณ 15.30 น.
ระหว่างนี้ นายเจษฎา และสมาชิกเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เตรียมโต๊ะแถลงข่าว พร้อมเก้าอี้ บริเวณหน้าป้ายโรงเรียนสตรีวิทยา โดยมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ ยังมีการประดับธง #ปล่อยเพื่อนเรา ที่โต๊ะแถลงข่าว
เวลา 15.03 น. รถของกลุ่มทะลุฟ้า ขับเข้ามาจอดบริเวณที่ทำกิจกรรม จากนั้น นายธนพัฒน์ กาเป็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า สวมกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า ตามข้อกำหนดการประกันตัวของศาล เดินลงจากรถ พร้อมสมาชิกทะลุฟ้าจำนวนหนึ่ง เข้ามาทักทายผู้ร่วมกิจกรรม
เวลา 15.08 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เดินเข้ามาพูดคุยกับนายสมยศ ถึงการแถลงข่าวในวันนี้
กระทั่งเวลา 15.15 น. เครือข่ายและแนวร่วมประชาธิปไตย แถลงข่าว
นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือ เจมส์ กล่าวว่า สืบเนื่องครบรอบ 1 เดือน ที่เพื่อนเราได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ได้แก่
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า แกนนำราษฎรมูเตลู, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง, นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย, นายณัฐชนน ไพโรจน์ หรือ ณัฐ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งถูกขังเป็นเวลากว่า 30 วัน และ นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ถูกขังกว่า 28 วัน
โดนจำคุกมา 1 เดือน ด้วยข้อหาที่ไม่ควรต้องเข้าไป ทางเครือข่ายนนทบุรี จึงเห็นควรจัดกิจกรรม “ยื่นหยุดขัง” นัดหมาย 10 กันยายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.30 น. เพื่อสื่อสารว่า นี่คือจุดมุ่งหมายที่เรา และเพื่อนคนไทยต้องการ
จากนั้น จะมีการเคลื่อนขบวนไป ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อยื่นหนังสือ
“เราเชื่อว่าศาลอาญา คือสถานที่ที่สามารถไปเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อปลดปล่อยเพื่อนเราออกมาได้ เพราะเพื่อนเรายังไม่ถูกตัดสินว่าผิด
หลังเสร็จสิ้นภารกิจ จะไปหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพราะเพื่อนเรายังอยู่ที่นั่น แม้บางส่วนจะไปอยู่ที่ เรือนจำธัญบุรี แต่เราจะไปร่วมพูดจาปราศรัย ทำกิจกรรมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ว่า กิจกรรมปล่อยนก และกิจกรรมที่ 2 ซึ่งคิดว่า ไม่เคยมีใครเจอมาก่อน และจะต้องดังไปถึงเพื่อนเราแน่นอน ไม่ใช่พลุ ไม่ใช่ระเบิด ไม่ต้องตกใจ รอเห็นพร้อมกัน
เวลา 15.19 น. นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือ บอล
ตัวแทนแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า
เป้าหมายของกิจกรรม เพื่อให้ปล่อยเพื่อนเรา เพื่อยืนยันว่า เพื่อนเราต้องได้รับการปล่อยตัว
เพื่อนเราทำอะไรผิด แค่เรียกร้องคุณภาพชีวิตที่ดี ชีวิตที่เป็นธรรม เรียกร้องยกเลิก ม.112 จัดสรรงบประมาณอย่างเป็นธรรมกับประชาชน เหตุผลเพียงเท่านี้ ทำให้เพื่อนๆ นักศึกษา ไม่ได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัย ต้องเข้าเรือนจำเป็นรอบที่ 2 รอบที่ 3
อยากเชิญชวนมาร่วมสู้ ต้องยืนยันว่า เพื่อนเราไม่ได้ทำอะไรผิด และสามารถพูดได้ ไม่ว่าจะ ขับไล่ประยุทธ์ แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือปฏิรูปสถาบันฯ
อยากให้ทุกคนร่วมต่อสู้ เพื่อส่งสัญญาณไปถึงชนชั้นนำว่่า นี่คือพลังประชาชน และอย่าดูถูกประชาชน” นายชนินทร์กล่าว และว่า มาร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ
ด้าน นายธนพัฒน์ กาเป็ง หรือ ปูนทะลุฟ้า กล่าวว่า อยากให้ไม่ลืมว่ายังมีคนในเรือนจำ เป็นคนที่ออกมาต่อสู้ เปิดเพดานให้เราพูดอะไรหลายอย่างได้ อย่างตรงไปตรงมา
“เมื่อศาลยังไม่มีคำพิพากษา เหตุไฉนจึงมีการฝากขัง ทุกสิ่งในประเทศควรจะพูดได้ ไม่ควรมีกฎหมายมาตราใด มาปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน เพื่อนเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิด ตุลาการควรอยู่เคียงข้างประชาชน ยืนยันเป็นเสาหลัก
อยากบอกพ่อแม่พี่น้องว่า ขอให้รู้ไว้เถิด เราต้องทวงคืนความยุติธรรมให้พี่น้อง และประเทศไทย ออกมายืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง 1.ประยุทธ์ลาออก 2.
แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกหมวด ทุกมาตรา 3. ปฏิรูปสถาบัน” นายธนพัฒน์กล่าว
ด้าน ตัวแทน กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก กล่าวว่า เฟมินิสต์ปลดแอก จะเอาขบวนกีไปด้วย รับรองคึกครื้น แดดร้อนแค่ไหนก็จะยืนเต้น แต่จะบอกว่า ตำรวจไม่ต้องเอาหมายมาอีก ไม่ต้องเอาเยาวชนขึ้นรถขังอีก
เพื่อนเราควรจะปล่อยออกมาได้แล้ว เข้าไปเพื่อติดโควิด ต้องการอะไรหรือไม่ เราจึงต้องเรียกร้องให้เพื่อนเราออกมาโดยเร็วที่สุด อยากบอกรัฐไทยว่า เลิกทำแบบนั้นเสียที การเอาเพื่อนเราไปขังแล้วติดโควิดซ้ำ ไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน” ตัวแทน กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก กล่าว
นายเจษฎา หรือ เจมส์ กล่าวอีกว่า หลายคนกังวล ขอฝากเสียงนี้ไปถึงคนไทยทั่วประเทศว่า หากเกิดรถติด ประมาณ 3-4 เดือน แต่เพื่อนเรา ติดคุกมาเกือบเดือนไม่ได้เจอคนที่รัก ขอให้เข้าใจความเป็นคน
พรุ่งนี้ 11.30 น. ที่นี่จะมีคาร์ม็อบ รวมกำลังไพร่พล ผู้ที่อยากเห็นความเป็นธรรม เชื่อว่าคนเหล่านี้จะนำพาเราไปสู่รัฐสวัสดิการที่ดี มากันให้มาก เพื่อส่งเสียงไปถึงผู้ใหญ่ว่า ถึงเวลาที่ต้องปล่อยอยพวกเขาออกมาเพื่อพิสูจน์ความจริง
“ถ้าวันหนึ่งเพื่อนผมพิสูจน์ได้ว่า ไม่ผิด แม้แต่เล็กน้อย สิ่งที่โดนฝากขัง เป็นระยะเวลาเกือบ 30 วัน ใครรับผิดชอบ แม่ว่าโทษจะร้ายแรง แต่พวกเขาไม่เคยหลบลี้ หนีภัย เขาไปตามนัดหมายทุกครั้ง หากวันนี้เพื่อนผมได้ออกมา จะได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่เรื่องประหลาด คือเรื่องปกติที่สามารถทำได้ คือเรื่องพื้นฐาน” นายเจษฎากล่าว
โดยการเคลื่อนขบวน จะมีการปราศรัยผ่านคลับเฮ้าส์ ไม่มีการปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง สามารถ ติดตามการเคลื่อนไหวได้ผ่านทางแฟนเพจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเคลื่อนขบวนต่อเนื่องหรือไม่
นายเจษฎาเปิดเผยว่า เป็นการเริ่มปลุกกระแส ปล่อยเพื่อนเรา
โดยหลังจากวันที่ 10 กันยายนนี้ เราจะไปคิดทบทวนว่า ต่อจากนี้ หากยังไม่มีการปล่อยเพื่อเรา จะเริ่มหาแนวทางรณรงค์อีกครั้ง แต่อีกสิ่งที่จะทำต่อเนื่อง คือ ทำกิจกรรมยกเลิก 112 เพราะคือกฎหมายที่ทำให้เพื่อนเราต้องถูกจองจำ และจะเริ่มกิจกรรมดังกล่าว หลังจบจากกิจกรรมนี้
