นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ผลประชุมคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเดือนสิงหาคม 2564ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 24 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากสิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ นำเงินเข้ามาลงทุนกว่า 908 ล้านบาท และส่งเสริมจ้างงานคนไทย 636 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี เช่น การประยุกต์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ เกี่ยวกับระบบรถไฟความเร็วสูงเทคนิคการเดินรถไฟความเร็วสูง การขนย้ายและติดตั้งแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม และเครื่องวิทยุคมนาคมที่ใช้ในอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจนายหน้า/ ค้าปลีก/ค้าส่งสินค้าสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม 3 ราย จากญี่ปุ่น และสิงคโปร์ มีเงินลงทุน 144 ล้านบาท ได้แก่การทำกิจการนายหน้าเพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทซิลิโคน โลหะผสมพิเศษ วัสดุคาร์บอนผสมเพื่องานอุตสาหกรรม ซิลิคอนและไมโครซิลิกา เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
การค้าปลีกเครื่องทดสอบกำลังไฟและทดสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่ของยานพาหนะ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการค้าส่งโช๊คอัพรถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนของโช๊คอัพรถจักรยานยนต์
ธุรกิจบริการโดยเป็นคู่สัญญากับเอกชน 3 ราย จากญี่ปุ่น อิตาลี มีเงินลงทุน 244 ล้านบาท ได้แก่ บริการบริหารจัดการและให้บริการเดินรถและซ่อมแซมบำรุงรักษาโครงการเกี่ยวกับรถไฟ และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ ภายใต้โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ระหว่างสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา การบริการจัดหาวัสดุอุปกรณ์และติดตั้งแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม รวมถึงการเชื่อมต่อท่อลำเลียงใต้ทะเล และเชื่อมต่อการทำงานกับแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม
ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า12 ราย จากญี่ปุ่น สิงคโปร์ มีเงินลงทุน458 ล้านบาท อาทิบริการสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน บริการให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งสินค้าประเภทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่ใช้เพื่อการเกษตร และบริการที่เกี่ยวเนื่องบริการชำระเงินภายใต้การกำกับประเภทการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ บริการรับชำระและโอนเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ 6 ราย จากญี่ปุ่น มีเงินลงทุน62 ล้านบาท อาทิ บริการสินเชื่อเพื่อสวัสดิการพนักงาน บริการบริหารจัดการเนื้อหาสารสนเทศดิจิทัล และทำการตลาดและส่งเสริมการขายเนื้อหาสารสนเทศดิจิทัล บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ
“ ช่วง 8 เดือนแรก 2564 นักลงทุนต่างชาติได้รับอนุญาตรวม 132 ราย เงินลงทุน 9,383 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ระบบควบคุมการจัดการการจราจร ภายใต้โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าอัจฉริยะระหว่างประเทศ ธุรกิจค้าส่งและซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น “นายทศพล กล่าว