พ่อเมืองคอนกำชับเข้มทุกอำเภอ ปูพรมตรวจพื้นที่เสี่ยง ไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรงในทัณฑสถาน
วันที่ 18 ก.ย.64 นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ระลอกเมษายน) ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงต้องเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกันกันอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ มีผู้ป่วยเพิ่ม 309 ราย ในพื้นที่ 16 อำเภอ แยกเป็นผู้ป่วยในจังหวัด 302 ราย และผู้ป่วยคืนถิ่น 7 ราย ทำให้มีผู้ ติดเชื้อสะสม 12,051 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,063 ราย (มาจาก กทม.และปริมณฑล 416 ราย) รักษาหายแล้วสะสม 9,282 ราย เสียชีวิตสะสม 77 ราย โดย อำเภอเมือง 114 ราย อ.ท่าศาลา 33 ราย อ.ปากพนัง 29 ราย อ.บางขัน 24 ราย
นายไกรศรกล่าวว่า ขณะนี้ทุกอำเภอได้เริ่มออกปฏิบัติการเชิงรุกพร้อมกัน โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ดำเนินมาตรการ 3 ประการได้แก่ การออกตรวจตลาด โรงงาน ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า การตรวจค้นหาผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัย และการให้คำแนะนำมาตรการควบคุมโรคที่คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกคำสั่งและประกาศ เพื่อนำมากำกับการปฏิบัติให้มีความเข้มข้นขึ้น เช่น ในเรื่องของการห้ามจัดเลี้ยงในงานศพ ห้ามมีกิจกรรมสันทนาการ และอื่นๆ ซึ่งนอกจากเจ้าหน้าที่จะนำมาตรการต่างๆ มาปฏิบัติแล้ว ประชาชนต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการลดการแพร่ระบาดลงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายไกรศรกล่าวว่า กรณีที่มีผู้ติดเชื้อในทัณฑสถานวัยหนุ่มนั้น ขอเรียนว่า วันนี้ไม่พบเชื้อเพิ่ม เนื่องจากเราตรวจเชิงรุก ยอดจึงเป็นเท่าเดิม ส่วนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ยังไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยการรักษาได้นำแนวทางการรักษาของ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ดูแลรักษา ซึ่งจะใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ควบคู่กับยาฟ้าทะลายโจร ผู้ป่วยทุกรายรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ภายในทัณฑสถาน มีแพทย์และพยาบาลดูแล และหากพบผู้ป่วยมีอาการรุนแรงก็จะนำตัวออกมารักษาที่ รพ.ต่างๆ ทันที จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะอยู่ในพื้นที่จำกัดไม่สามารถออกมาสู่ภายนอกได้ ส่วนนักโทษที่มาใหม่จะไม่นำเข้าภายในทัณฑสถานวัยหนุ่ม แต่จะนำตัวไปฝากกักไว้ที่ 3 เรือนจำ และ 1 สถานกักตัวในจังหวัด ส่วนผู้ที่จะพ้นโทษ ซึ่งมีจำนวน 2 คน ก็จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ ถึง 3 ครั้ง และกักตัว 7-14 วัน ก่อนปล่อยตัว
