ก.อ.มติเอกฉันท์ตั้งสอบวินัยร้ายแรง ‘เนตร‘ รอง อสส.สั่งไม่ฟ้อง ‘บอส วรยุทธ‘ ตั้ง ‘ธนพิชญ์‘ ปธ.สอบ โทษสูงสุดไล่ออกจากราชการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กันยายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้เป็นประธานการประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับผลสรุปสอบสวนทางวินัย นายเนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด กรณีที่นายเนตรมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555 โดยมี นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย ซึ่งมีความเห็นว่า นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผิดวินัยไม่ร้ายแรงเนื่องจากไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรงดบำเหน็จหรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส
ทั้งนี้ หลังจากมีการเลื่อนประชุม ก.อ.เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจาก ก.อ.บางคนยังไม่ได้รับเอกสารสรุปผลสอบ ทำให้ ก.อ.บางคนได้รับเอกสารช้า และเอกสารมีจำนวนมากนับร้อยหน้าทำให้ไม่สามารถอ่านเอกสารได้ทัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีวาระการประชุมสำคัญกรณีที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโสให้ที่ประชุม ก.อ.พิจารณาอีกด้วย
โดยภายหลังประชุมแล้วเสร็จ เวลา 13.00 น. นายพชรกล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ก.อ.กรณีของนายเนตร นาคสุข ที่ประชุมมีมติว่า มี 9 เสียง เห็นว่านายเนตรขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่ออย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยวินัยร้ายแรงมีโทษทางข้าราชการ โทษสูงสุดคือการไล่ออก หากผู้เสียหายไม่พอใจไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ ทั้งนี้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด งดออกเสียง
ซึ่งที่ประชุม ก.อ.ยังได้ตั้งนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการ และหลังจากนี้นายธนพิชญ์จะเป็นผู้คัดเลือกกรรมการอีก 2 คน และเลขานุการอีก 1 คน
นายพชรกล่าวว่า วันนี้ถือว่าได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตรแล้ว จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3 ครั้ง จะสอบในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่วนประเด็นที่นายเนตรจะยื่นหนังสือลาออกอีกครั้งที่ 2 นั้นเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา สำหรับประเด็นที่นายวงศ์สกุล อัยการสูงสุด ยื่นหนังสือต่อ ก.อ.ว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุม ก.อ.ได้พิจารณาแล้วและอนุมัติ และจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้
เมื่อถามว่าทาง ก.อ.จะส่งมติว่านายเนตรผิดร้ายแรงให้ทาง ป.ป.ช.หรือไม่ นายพชรกล่าวว่า ทั้งอัยการและ ป.ป.ช.ต่างคนต่างสอบและอาจมีการรวมสำนวนกันในอนาคตก็ได้
นายพชรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีอัยการเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วนั้น ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายเนตรที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็จะสอบสวนในประเด็นนี้ไปด้วย หลังจากนั้นก็จะนำเสนอผลสอบให้ ก.อ.พิจารณาลงโทษอัยการคนดังกล่าวด้วย
นายพชรกล่าวว่า สำหรับการประชุมวันนี้มีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คน จาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน โดยผลการลงมติเห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายแรงนายเนตร 9 เสียง และงดออกเสียงคือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ นายไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส. ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบต้องออกจากห้องประชุม และตนในฐานะเป็นประธาน ก.อ. ก็งดออกเสียงเนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด