เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 22 ก.ย. จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มทะลุแก๊ซ ยังไม่ทราบนัดหมายเวลาที่สามเหลี่ยมดินแดง บช.น. ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค ใครช่วยเหลือสนับสนุนจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของ บ้านเมืองไว้แล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า จากการชุมนุมในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่แยกดินแดง เวลา 19.00 น. เริ่มมีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ระเบิดต่างๆ เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร มหาวิทยาลัยมหิดล และมีการจุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ บนถนนบริเวณใต้ทางด่วนทำให้กีดขวางการจราจร และประชาชนในละแวกได้รับความเดือดร้อน ต่อมาเวลา 20.45 น. ฝั่งถนนมิตรไมตรี มีผู้ก่อเหตุขว้างปาประทัด ยิงพลุไฟ ระเบิดต่างๆ จุดไฟเผายางรถจักรยานยนต์บนถนน เวลา 21.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศแจ้งเตือนให้ยุติการกระทำเนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มยังคงก่อความวุ่นวายเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เวลา 21.30 – 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป
“การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวเป็นความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองๆ(ป.อาญา ม.215), เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกๆ(ม.216), ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยทาง บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึง ปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 219 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 797 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 552 คน” โฆษกบช.น. กล่าวว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางบช.น.ประเมินสถานการณ์การขุมนุมเป็นอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เตรียมขับเคลื่อนการรักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความสงบสุขประชาชนชาวดินแดง ช่วงบ่ายพบป่ะพูดคุย ฟังเสียงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก การหารือ 2 ครั้งที่ผ่านมามีการรักษาความสงบเรียบร้อยได้ผลมากขึ้น การก่อเหตุถูกบีบพื้นที่น้อยลงและกระทำได้มากขึ้นต้องดำเนินการต่อ แต่คาดว่าอีกไม่นานพื้นที่ในเขตดินแดงน่าจะจบลง ส่วนกรณี ผบ.ทบ. ลงพื้นที่เขตดินแดง พบปะพูดคุยฟื้นฟูจิตใจรับฟังปัญหาปรับมาตรการ3-4 วันได้ผลหรือไม่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างไร หลังจากที่ผ่าน 2 สัปดาห์ที่แล้วได้รับความชี้แจงอย่างไรบ้างการใช้กระสุนยางแก๊สน้ำตา กรณีแก๊สน้ำตาปลิวตามลมไปทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2-3 อาทิตย์ ไม่ได้ใช้กระสุนยาง บริเวณดังกล่าว ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุเดิอดร้อย ผบช.น. สั่งการไม่ให้ติดตามเข้าไปในเคหะสถาน มีการดำเนินการให้ข้อมูลข่าวสารเครือข่ายผู้มาแฝงตัวเป็นประชาชนชาวดินแดงเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนความคืบหน้าดำเนินคดีเยาวชนถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่
ส่วนการประเมินสถานการณ์หากประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวมีการขยายผลในสิ้นเดือนหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจเตรียมการถ้าเวลาห้ามถูกบังคับใช้อยู่ ถ้าถูกยกเลิกไปก็ได้เตรียมแนวทางสองกรณีขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนต้องดูรายละเอียดบางส่วน แต่ก็จะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอยู่ภายในเวลานั้น
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงบังคับใช้กฎหมายลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนหากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ใช้พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ กฎหมายอาญา เป็นหน้าที่ตำรวจต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ถึงเวลา ต้องมีความบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสม ส่วนจะมีเหตุบายปลายเกิดขึ้นหรือไม่ ภาพรวมทั้งประเทศมีการชุมนุม 10 จังหวัด มีการดำเนินการ 800 กว่าคดี ก็จะต้องมีการดำเนินการภายหลัง อยากให้แยกการชุมนุมและการก่อเหตุความวุ่นวาย
