เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่กองบัญชาตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. และข้าราชการตำรวจจะเกษียณอายุราชการ ภายหลังสำนักงานตำรวจ (ตร.) ประกาศวันที่ 31 ส.ค. ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชปี 2564 โดยข้าราชการตำรวจนครบาล มีข้าราชการตำรวจเกษียณ 431 นาย ทั้งนี้ โดยรับมอบโล่เชิญชูเกียรติและรูปภาพที่ระลึกให้ข้าราชการตำรวจเกษียณอายุราชการระดับ ผบก.-พ.ต.อ.ทั้งหมด 11 นาย โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัดมอบดอกกุหลาบและขอถ่ายรูปเพื่อเป็นเกียรติในการอำลาตำแหน่งดังกล่าว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวอำลาข้าราชการตำรวจนครบาลว่า รอง ผบช.น. ผบก. รอง ผบก. ผกก. เพื่อนข้าราชการตำรวจ ผู้เกษียณอายุราชการ ตลอดระยะเวลา 36 ปี ในการรับราชการตำรวจ กว่า 12 ปี ในการเป็นตำรวจนครบาล นำพามาสู่ 2 ปี สุดท้าย ในฐานะ ผบช.น. ซึ่งตนนั้นได้พูดตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่งนี้ ว่าคงไม่มีวันนี้ ถ้าหากปราศจากเพื่อนร่วมงานเช่นตำรวจนครบาลทุกคน นับว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุด เท่าที่ตำรวจคนนึงจะมีโอกาสได้ประสบพบเจอ
พล.ต.ท.ภัคพงศกล่าวต่ออีกว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลต้องรับมือกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมาย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัญหาด้านความมั่นคง การชุมนุมประท้วง การก่อความไม่สงบ ยังไม่นับรวมกับปัญหาอาชญากรรมที่มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ ขอกล่าวสดุดีทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยจิตวิญญาณความเป็นตำรวจมืออาชีพ มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท กล้าหาญ เสียสละ ทั้งกำลังกายและกำลังใจ ในการพิทักษ์ รับใช้ประชาชน มาตลอดระยะเวลาในการรับราชการ นับเป็นสิ่งสำคัญที่ควรค่าแก่การยกย่อง และนำไปยึดถือเป็นแบบอย่างให้แก่ข้าราชการตำรวจรุ่นหลังสืบไป
“ส่วนในยุคต่อไปของผู้บัญชาการ ว่าที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ขอให้เชื่อมั่นว่าเป็นผู้บัญชาการที่เติบโตมาจากพื้นที่ตำรวจนครบาล เข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าผู้บัญชาการคนใหม่มีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานเข้าใจปัญหามีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่” ผบช.น.กล่าว
ทั้งนี้ ในนามผู้ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ ผมขอขอบคุณ บช.น. ที่จัดพิธีอำลาชีวิตราชการตำรวจ ให้กับพวกเราผู้เกษียณอายุราชการ ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น และสมศักดิ์ศรีของการเป็นตำรวจนครบาล แม้ว่าพวกเราจะต้องพ้นจากหน้าที่ และชีวิตการรับราชการตำรวจไปแล้ว แต่ผมเชื่อมั่นว่า จิตวิญญาณของความเป็น “ตำรวจนครบาล” จะไม่มีวันสิ้นสุด และผมจะคอยเป็นกำลังใจให้กับตำรวจนครบาลทุกนาย ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้กับสังคมและประเทศชาติ ตลอดไป สุดท้ายนี้ ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ตลอดจนพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จงดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่าน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ ตลอดไป
