รอง ผบช.น.ระบุหากทะลุแก๊ซรวมกับทะลุฟ้า ต้องให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม เพื่อแยกระหว่างผู้ก่อความวุ่นวาย กับผู้ชุมนุม

รอง ผบช.น.ระบุหากทะลุแก๊ซรวมกับทะลุฟ้าต้องให้ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม เพื่อแยกระหว่างผู้ก่อความวุ่นวายกับผู้ชุมนุม เผยขอหมายค้นแคมป์คนงานร้างรวบผู้ก่อเหตุเผาป้อมตำรวจเพิ่ม 2 ราย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 กลุ่มที่ทำการนัดหมายรวมตัวกันในห้วง 25 ก.ย. ดังนี้ กลุ่มทะลุฟ้าได้นัดหมายเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป รวมตัวที่แยกยมราชเคลื่อนตัวมาทำเนียบรัฐบาล และกลุ่มทะลุแก๊ซนัดหมายรวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น.จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้ตามสถานการณ์การข่าวและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า จากการชุมนุมในวันที่ 24 ก.ย.ของกลุ่มทะลุแก๊ซที่แยกดินแดง เวลา 19.30-21.30 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเรียบร้อยได้มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว พลุไฟ ระเบิดต่างๆ เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ ทั้งหน้ากรมดุริยางค์ทหารและฝั่งถนนมิตรไมตรี ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ก่อเหตุยุติการกระทำและให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ยอมเชื่อฟังยังคงก่อความวุ่นวายต่อ เวลา 22.20-22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า เมื่อ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา​ เวลาประมาณ 14.15 น. ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาที่ 339/2564 ลงวันที่ 24 ก.ย.2564 เข้าตรวจค้นแคมป์ที่พักคนงานร้าง ถนนดินแดง ใกล้สามเหลี่ยมดินแดง พบบุคคล 14 คน พร้อมสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศษระเบิด ปิงปอง ลูกแก้ว ถังน้ำมัน เศษแก้ว โล่พลาสติก หมวกกันน็อก โดยจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และหนังสติ๊กจำนวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และทำการสืบสวนขยายผลพบว่าเยาวชนอีก 2 คน จาก 14 คน ให้การว่าไปร่วมเผาและทุบทำลายป้อมตำรวจหลายจุดในช่วงกลางดึกของวันที่ 22-23 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนคนที่เหลือทำการบันทึกประวัติเอาไว้

Advertisement

“เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และ สน.พญาไท และแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาว่าร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และออกนอกเคหสถานในเวลาห้ามอีกส่วนหนึ่ง โดยในวันนี้ 25 ก.ย.64 นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทาง บช.น.จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย กรณีเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองถูกออกหมายเรียกอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 231 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 828 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 583 คน” รอง ผบช.น.กล่าว

ส่วนสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้าจะมีการสกัดกั้นเส้นทางหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า มีการรวมตัวแยกยมราชเคลื่อนมาแยกนางเลิ้ง มาทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตำรวจไม่ยอมให้เข้ามาบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด ส่วนกลุ่มทะลุแก๊ซปะปนผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามรักษาความสงบเรียบร้อยและประสานงานกลุ่มผู้ชุมนุมให้ทำการยุติการชุมนุม เพื่อให้ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุความรุนแรง แต่เดิมเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนจะมารวมจากดินแดงที่บริเวณดังกล่าวมีความเป็นไปได้ สำหรับการติดตามตัวบุคคลทำลายป้อมตำรวจทั้งหมดแล้ว 10 กว่าคน ต้องดำเนินการจับกุมต่อเรื่อยๆ อยู่ระหว่างการสืบสวน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีหมายจับอีกหลายราย

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สถานที่ใช้เก็บอาวุธขอให้ผู้เกี่ยวข้องสถานที่ต่างๆ ช่วยตรวจตราอย่าให้กลุ่มผู้ก่อเหตุวุ่นวายมาเก็บวัตถุอุปกรณ์ ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี ส่วนภาพรวมมีการรวมตัวหลายจังหวัด มีการดำเนินคดีแล้ว 800 คดี

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image