บช.น.เชื่อคุมสถานการณ์ม็อบแนวร่วมธรรมศาสตร์แยกปทุมวันได้ บช.น.แนะเลี่ยงเส้นทางรอบพื้นที่ชุมนุมเย็นนี้ เผยจับกลุ่มทะลุฟ้า 15 คน เป็นเยาวชน 4 รถ จยย. 6 รถยนต์ 1 คัน
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 26 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น.เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีกลุ่มหลักๆ นัดหมายรวมตัวกันในวันที่ 26 ก.ย. มีดังนี้ 1.กลุ่มทะลุแก๊ซ นัดรวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง 2.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายเวลา 16.00-19.00 น. ที่บริเวณลานหน้าหอศิลป์แยกปทุมวัน ซึ่งบริเวณดังกล่าวถูกจัดเป็นสถานที่ชุมนุมมาแล้วหลายครั้งเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่เกิดเหตุรุนแรง อย่างไรก็ตาม บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น.จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่โดยรอบการชุมนุม และสถานที่สำคัญซึ่งอยู่ใกล้เคียง
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบพื้นที่ที่จะมีการชุมนุม เพราะคาดว่าการชุมนุมจะกระทบการจราจรถนนพระราม 1 และถนนพญาไท โดยประชาชนสามารถใช้ถนนพระราม 4 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนวิทยุ ถนนราชดำริ และถนนกรุงเกษม เป็นเส้นทางเลี่ยงได้
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า จากการชุมนุมในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุฟ้า เวลา 16.00 น. เริ่มรวมตัวกันที่บริเวณแยกยมราช และต่อมาเคลื่อนขบวนมาที่แยกนางเลิ้ง ซึ่งมีการปิดการจราจร พ่นสีบนถนน มีการขว้างปาสิ่งของต่างๆ และถุงหรือขวดบรรจุน้ำสีแดงบริเวณแยกนางเลิ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มดังกล่าวยุติการกระทำ ก็ยังคงมีการขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัด พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ และพยายามรื้อรั้วลวดหนามออก กระทั่งเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าบังคับใช้กฎหมาย จนเวลา 18.30 น. สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ได้ จับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 15 คน ในจำนวนนี้พบว่า เป็นเยาวชนจำนวน 4 คน พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ 6 คัน และรถยนต์ 1 คัน ดำเนินคดีในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ (ป.อาญา ม.215), เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุม เลิกแล้วไม่เลิก (ม.216), ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้กระทำผิดที่เป็นเยาวชน ตำรวจจะออกหมายเรียกผู้ปกครองของเยาวชนดังกล่าวมาสอบสวน หากพบว่ายินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานออกมาก่อความวุ่นวาย ก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 232 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 843 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 598 คน
