ตามที่มีฝนตกหนักมากทั่วทั้งจังหวัดลพบุรีติดต่อกันในช่วงวันที่ 23-25 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัด ได้แก่ อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ อำเภอหนองม่วง และอำเภอโคกสำโรง ไหลตามเส้นทางน้ำมาถึงพื้นที่ตำบลดงพลับ ตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ตั้งแต่เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัดลพบุรีจะไหลต่อเนื่องลงมาสะสมในพื้นที่ริมคลองชัยนาท–ป่าสัก ฝั่งตะวันออก โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นช้าๆ แผ่กว้างออกไปตามลำดับ ตั้งแต่พื้นที่ตำบลหนองกระเบียน ตำบลหนองเมือง ตำบลบ้านกล้วย ตำบลบ้านทราย ตำบลหนองทรายขาว และจะไปสะสมที่ตำบลพุคา ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร
ขณะเดียวกัน กรมชลประทานได้ปรับลดการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท–ป่าสัก ที่ประตูมโนรมย์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จาก 16 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เหลือเพียง 4 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เพื่อพร่องน้ำลดระดับน้ำในคลอง และเดินเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้ง 11 แห่ง สามารถสูบน้ำได้วันละ 2,500,000 ลูกบาศก์เมตร ลงสู่คลองชัยนาท–ป่าสักเพื่อระบายลงสู่แม่น้ำป่าสักต่อไป
โดยน้ำส่วนนี้จะไม่ไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองชัยนาท–ป่าสัก ในเขตอำเภอท่าวุ้ง และอำเภอบ้านหมี่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในทุกอำเภอได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที โดยให้วางแผนอพยพ กำหนดจุดพักพิงสำหรับประชาชนและขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อเกิดความปลอดภัยทันที นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทหารในพื้นที่ซึ่งสนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย
ล่าสุด จังหวัดลพบุรีมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 10 อำเภอ (จาก 11 อำเภอ) 83 ตำบล 647 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,197 คน มีผู้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว 120 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่
หากต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา