รอง ผบช.น.เผยเมื่อวานจับผู้ชุมนุม 26 ราย พบ 7 ราย เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน เตรียมประสานอัยการ-ศาลขอเพิ่มความเข้มในการประกันตัว

รอง ผบช.น.เผยเมื่อวานจับผู้ชุมนุม 26 ราย พบ 7 ราย เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน เตรียมประสานอัยการ-ศาลเพิ่มความเข้มในการประกันตัวพร้อมเพิ่มโทษป้องกันหวนก่อเหตุซ้ำ -ผบ.ตร.สั่ง ตร.เตรียมพร้อมผ่อนคลายมาตรการลด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 28 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายรวมตัวกันในวันนี้ (28 ก.ย.) กลุ่มทะลุฟ้านัดหมายเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป รวมตัวที่แยกนางเลิ้งมุ่งหน้าทําเนียบรัฐบาล และกลุ่มทะลุแก๊ซ ยังไม่ทราบเวลานัดหมาย รวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทํากิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า จากการชุมนุมในวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาของกลุ่มทะลุฟ้า เวลา 16.00 น. เริ่มรวมตัวกันที่บริเวณแยกนางเลิ้ง มีการปาถุงสี โปรยใบปลิว ยิงจรวดน้ำ และขึงป้ายผ้าหน้าแนวรั้วลวดหนาม เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมตัดรั้วลวดหนามเพื่อรื้อแนวกั้นหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนครพณิชยการ เจ้าหน้าที่จึงประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวยุติการกระทํานั้นเนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และขอให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงรวมตัวขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัด พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่เจ้าหน้าที่ตํารวจเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เวลา 17.30-18.30 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทําผิด จํานวน 26 คน ดําเนินคดีข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในจำนวน 7 คน จาก 26 คน เคยถูกจับดำเนินคดีการชุมนุมและก่อเหตุวุ่นวาย ทางพนักงานสอบสวนจะมีความเห็นคัดค้านการประกันตัวต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีจำนวน 500 กว่าคน จะทำการตรวจสอบทุกราย ถ้าใครมีคดีซ้ำ ใครอยู่ระหว่างเงื่อนไขการประกันตัว ตำรวจก็จะประสานกับทางอัยการและศาลเพื่อขอให้พิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้ข้อกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ปิยะ​กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มทะลุแก๊ซ เวลา 20.40-21.40 น. มีการรวมกลุ่มบริเวณถนนมิตรไมตรี มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก พลุไฟ เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากพื้นที่ไป โดยทาง บช.น.จะดําเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อติดตามจับกุมผู้กระทําความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดําเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งหากเยาวชนกระทําความผิดผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วยเช่นกัน ส่วนการดําเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 234 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 869 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 624 คน

Advertisement

ส่วนการรัฐบาลมีการคลายล็อกผ่อนปรนให้มีการเล่นดนตรีสดได้นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมาตรการผ่อนปรนมาแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมีมาตรการคุมเข้มในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่สีแดงเข้ม รวมต่างจังหวัด 29 จังหวัด โดยหลักได้มีการอนุญาตให้ขยายช่วงเวลาเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. แต่ยังคงห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ปิดภายในเวลา 21.00 น. ซึ่งที่ผ่านมามีการลักลอบเปิดจัดปาร์ตี้ในทั่วทุกที่ทั่วประเทศ หากมีการลักลอบจำหน่ายจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ผู้บัญชาการแต่ละภาคตรวจเข้มร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างจังหวัด ส่วนนอกราชอาณาจักรให้ตำรวจ ตม.ทำการตรวจสอบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image