บช.น.เผยจับกลุ่มก่อความวุ่นวายทะลุแก๊ซ 22 คน ร่วมชาวแฟลตดินแดงค้นห้องรวบอีก 10 กว่าคน แฝงตัวเช่าห้องไว้ก่อเหตุเผารถตำรวจ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีกลุ่มหลักๆ นัดหมายรวมตัวกันในวันที่ 30 ก.ย. มีกลุ่มทะลุฟ้า นัดหมายเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป รวมตัวที่แยกนางเลิ้ง มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล และกลุ่มทะลุแก๊ซยังไม่ทราบเวลานัดหมายรวมตัวที่แยกดินแดง บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า จากการชุมนุมในวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุฟ้า เวลา 16.00 เริ่มรวมตัวกันที่บริเวณแยกนางเลิ้ง มีการปิดการจราจรบนถนนนครสวรรค์ ก่อนถึงแยกนางเลิ้งมีการปาถุงสี ยิงจรวดน้ำ และขึงป้ายผ้าหน้าแนวรั้วลวดหนาม เวลา 16.40 น. เริ่มรื้อทำลายแนวรั้วลวดหนาม ขว้างปาสิ่งของต่างๆ ยิงหนังสติ๊ก ประทัด พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่เจ้าหน้าที่ 16.50 น. เจ้าหน้าที่จึงประกาศเตือนให้กลุ่มยุติการกระทำเนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และขอให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเชื่อฟัง ยังคงรวมตัวขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลายเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าบังคับใช้กฎหมายและมาตรการผลักด้นกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป เวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบจึงประกาศยุติกิจกรรม
ในส่วนของกลุ่มทะลุแก๊ซ เวลา 19.10 น. เริ่มรวมตัวที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเวลา 20.00 – 22.30 น. มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก พลุไฟ ระเบิดต่างๆ เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่บริเวณฝั่งถนนมิตรไมตรี และจุดไฟเผาทรัพย์สินบริเวณใต้ทางด่วนเป็นระยะๆ ทำให้ประชาชนในละแวกได้รับความเดือดร้อน และมีทรัพย์สินสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง เวลา 23.30 – 00.30 น. เจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 22 คน พร้อมยึดของกลาง ระเบิดปิงปอง, ระเบิดขวดระเบิดแสวงเครื่อง และพลุไฟ รวมจำนวน 70 กว่าลูก และยังมีหนังสติ๊ก, ลูกแก้ว, มีดพกอีกจำนวนหนึ่ง
“โดยส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ, มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น) และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยทาง บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย หากเยาวชนได้กระทำความผิดผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 238 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 900 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 655 คน ส่วนภาพรวมการดำเนินคดีของ บช.น. ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 554 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 244 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 310 คดี” รองผบช.น. กล่าว
ส่วนการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย.มีการขึ้นไปยังแฟลตนั้น พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นปฏิบัติการร่วมตำรวจและประชาชนชาวแฟลตดินแดง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมใช้พื้นที่แฟลตทำการก่อเหตุเผารถโดยใช้ระเบิดเพลิงและพลุไฟ โดยจับกุมผู้ก่อเหตุที่หลบอยู่บริเวณทางเดินแฟลต 10 กว่าคน และของกลางที่นำมาเผารถตำรวจ ขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือ ถึงแม้ว่ามีส่วนหนึ่งไปเช้าห้องว่างสำแดงเป็นชาวแฟลตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับ เพื่อให้กระทบชาวแฟลตดินแดง ส่วนมีการแฝงตัวไปเช่าห้องมีการหารือประชาชนบริเวณดังกล่าวอย่างไรนั้น มีการแฝงตัวมาเป็นเดือนแล้ว เป็นห้องร้างจึงพยายามเข้าไปเช่า ประชาชนชาวแฟลตดินแดงจับตาดูอยู่ มีการย้ายออก 2 ห้องเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนมีคนสนับสนุนเบื้องหลังหรือไม่ให้ประชาชนคิดเอาเอง เนื่องจากอายุน้อยและมีระเบิด พลุมาใช้ก่อเหตุส่วนกรณีการเผารถคาดว่าอยู่ใน 22 คนที่จับกุมได้ ส่วนจะจบภายในสิ้นเดือนนี้นั้น จำนวนคนเหลือค่อนข้างน้อยจึงเปลี่ยนจุดไปบริเวณแยกนางเลิ้ง อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะติดตามก่อเหตุผู้กระทำความผิดทุกรายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย