แอสตร้าเซนเนก้า เผยผลวิจัยวัคซีนในสหรัฐ มีประสิทธิภาพสูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์

(AP Photo/Ted S. Warren, File)

แอสตร้าเซนเนก้า เผยผลวิจัยวัคซีนในสหรัฐ มีประสิทธิภาพสูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์

รอยเตอร์รายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้ชื่อทางการค้าว่า “แวกซ์เซเวรีย” ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการทดลองขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาในวารสารวิชาการ นิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน เมื่อวันที่ 29 กันยายนนี้ ระบุว่า ผลการทดลองประสิทธิภาพของวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ในกลุ่มตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา พบว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยหนักหรือต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้สูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์ และอัตราส่วนดังกล่าวจะสูงขึ้นไปอีกเป็น 83.5 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

ผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ต่ำกว่าผลการวิจัยเบื้องต้นที่แอสตร้าเซนเนก้าเผยแพร่ออกมาในเดือนมีนาคม ซึ่งระบุว่ามีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 79 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะปรับลดลงมาเป็น 76 เปอร์เซ็นต์หลังจากถูกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกันบางคนโต้ว่า การประเมินดังกล่าวใช้ข้อมูลเก่า

ในการศึกษาวิจัยใหม่ครั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้า ใช้กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 26,000 คน ทั้งในสหรัฐอเมริกา, ชิลี และ เปรู แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 2 โดสห่างกันราว 1 เดือน กับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอกหรือ พลาเซโบ ผลปรากฏว่าในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน กว่า 17,600 คน ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดติดเชื้อแล้วมีอาการหนัก หรือ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ส่วนในกลุ่มพลาเซโบ 8,500 คน มีผู้มีอาการหนักหรือต้องเข้าโรงพยาบาล 8 คน และเสียชีวิตอีก 2 ราย

แพทย์หญิง แอนนา เดอร์บิน นักวิจัยวัคซีนจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมตรวจสอบงานวิจัย ระบุว่า ผลที่ได้โดยรวมน่าพอใจอย่างน่าประหลาดใจ เพราะนอกจากวัคซีนจะมีประสิทธิสูงในการป้องกันอาการหนักและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วยัง ไม่ปรากฏว่ามีผู้ได้รับวัคซีนรายใด เกิดอาการลิ่มเลือด หรือ ทรอมโบซิส และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เลยแม้แต่รายเดียว

Advertisement

ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้า แถลงเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทเตรียมการที่จะยื่นขออนุญาตใช้งานเต็มรูปแบบจาก องค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกา แทนที่จะเป็นการยื่นขออนุมัติให้ใช้งานในภาวะฉุกเฉิน ที่เตรียมไว้แต่เดิม โดยนายปาสคาล โซไรออท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอสตร้าฯ แสดงความคาดหวังว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า จะยังมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากระบวนการขออนุญาตจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้มากก็ตาม

นอกจากนั้นทางบริษัทยังเตรียมการทดลองการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับทั้งผู้ที่เคยฉีดวัคซีนของบริษัทมาครบ 2 เข็มแล้วและผู้ที่เคยฉีดวัคซีนประเภทเอ็มอาร์เอ็นเอ ของไฟเซอร์/ไบออนเทค และ โมเดอร์นา มาแล้วอีกด้วย

ทั้งนี้ โฆษกของแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยว่า เตรียมการยื่นขออนุมัติการใช้งานวัคซีนของตนในสหรัฐอเมริกาในราวปลายปีนี้ โดยในเวลานี้มีกว่า 170 ประเทศ อนุมัติให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในประเทศของตนแล้ว ในขณะที่แพทย์หญิงเดอร์บิน กล่าวว่า ไม่คิดว่า การอนุมัติให้ใช้งานวัคซีนตัวนี้จะส่งผลให้มีการใช้วัคซีนนี้กันมากขึ้นมากในสหรัฐอเมริกา แต่จะช่วยให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีความน่าสนใจสำหรับการนำไปใช้งานมากขึ้นเท่านั้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image