‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่ ร.ร.พิบูลอุปถัมภ์ ห้วยขวาง เยี่ยม ศธ.คิกออฟฉีดวัคซีนนักเรียน 4 ต.ค.ด้านเลขาฯ สอศ.เผย น.ศ.อาชีวะแจ้งฉีดวัคซีนแค่ 70% เหตุกลุ่มอายุเกิน 18 ปี ได้รับวัคซีนไปแล้ว
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน อายุ 12-18 ปี ว่า จากที่ ศธ.ประสานงานกับ สธ.ทราบเบื้องต้นว่าขณะนี้อยู่ในกระบวนการส่งวัคซีนให้โรงพยาบาลประจำอำเภอทั่วประเทศ หากพื้นที่ไหนมีความพร้อม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สธจ.) จะประสานกับศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เพื่อสำรวจความพร้อมของนักเรียน หากโรงเรียนไหนมีความพร้อม ก็ฉีดในวันที่ 4 ตุลาคมได้ทันที นอกจากนี้ ศธ.ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาคิกออฟตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้นักเรียน เบื้องต้นอาจจะลงตรวจเยี่ยมโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ
“ส่วนที่แพทย์ระบุว่าฉีดไฟเซอร์ให้เด็ก อาจไม่ปลอดภัยในระยะยาว ขอให้ฉีดวัคซีนเชื้อตายดีกว่านั้น มองว่านายกฯ และรัฐบาล นำเข้าวัคซีนโดยมีเป้าหมายคือให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงวัคซีน และสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนได้ โดยการฉีดวัคซีนให้นักเรียนนั้น สธ.ได้รับการยืนยันจากวิทยาลัยกุมารแพทย์ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ยืนยันว่าวัคซีนไฟเซอร์สามารถฉีดให้เด็กได้ มีหลายประเทศฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กไปบางส่วนแล้ว จึงมั่นใจว่าวัคซีนนี้ปลอดภัย สามารถฉีดให้เด็กได้” น.ส.ตรีนุช กล่าว
นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ภาพรวมมีผู้เรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) แจ้งความประสงค์ต้องการวัคซีนประมาณ 70% สาเหตุที่น้อย มาจากผู้เรียนส่วนหนึ่งอายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์ ได้เข้ารับวัคซีนตามที่รัฐบาลจัดหาให้แล้ว อีกส่วนคือมีนักศึกษาไปฝึกงานในสถานประกอบการ ทางสถานประกอบการได้จัดหาวัคซีนให้แล้ว ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนให้ผู้เรียนในสังกัด สอศ.จะให้สถานศึกษาเป็นฐานในการฉีด โดย สธจ.จะเป็นผู้บริหารจัดสรรวัคซีน และนัดวันให้มาฉีดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่าในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ นายกฯ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เวลา 08.00 น.
