ด่านทดสอบที่ต้องผ่าน – ‘แอมมี่’ ส่งใจ พ่อแม่ไผ่-ปชช. ‘สู้ต่อไป เรายังไม่แพ้’
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม กลุ่มศิลปะนานาพันธุ์ และแนวร่วม จัดกิจกรรม “เสียงจากผู้ถูกกดขี่… กำปั้นสู่สามัญชน จากบนถนนสู่เวที” โดยมีศิลปินร่วมสนทนาคับคั่ง เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่เชื่อมโยงถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปัจจุบัน ไปจนถึงการแสดงดนตรี จากศิลปินผู้ถูกกดขี่ในระบบที่กดทับจากปีศาจแห่งกาลเวลา ตั้งแต่เวลา 15.00- 20.00 น.
อ่านข่าว : https://www.matichon.co.th/politics/news_2970862
โดยเวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ และ นายชวิศ นีละไพจิตร มือกีต้าร์ และโปรดิวเซอร์วง The Bottom Blues ร่วมบรรเลง 3 บทเพลง โดยเริ่มที่เพลง “You will be”
นายไชยอมร เปิดเผยว่า เพลงนี้แต่งในเรือนจำ ขอมอบให้กับเพื่อนและนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกคนที่อยู่ในเรือนจำ และไม่ได้กลับบ้าน
เนื้อหาความว่า แม้เราจะไกลห่าง ฉันก็ยังห่วง ว่ายังเจ็บ ฉันก็รู้สึก แต่ลึกๆ แล้วในใจ คงคิดถึง ไม่รู้ทำไม ยังอยู่ในใจเสมอ ชั่วนิรันดร์
นายไชยอมรกล่าวว่า ถือว่ามาเป็นตัวแทนเพื่อนๆ ที่ยังต่อสู้ยังเคลื่อนไหวอยู่ จำนวน 12 ชีวิตที่ยังอยู่ในเรือนจำและอีกมากมาย
“วันนี้ขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ต่อไป เรายังไม่แพ้ เรายังมีหวังอยู่ผมคิดว่า ทำทุกวันให้มีความหมาย สู้ให้เต็มที่” นายไชยอมรกล่าว
ก่อนเริ่มบรรเลงบทเพลง Come Together ของวง The Beatles โดยเนื้อหาท่อนฮุกสื่อถึง “การเป็นอิสระ” และ “การก้าวเดินไปด้วยกัน”
ต่อด้วยเพลง 12345 I love you
นายไชยอมรกล่าวว่า เล่นเพลงป๊อปเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่โดนคดี 112 เพลงนี้คงต้องขอแรงเพื่อนๆ ช่วยกันร้องจากนั้น ต่อด้วยเพลง poppy love
นายไชยอมรกล่าวว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ชอบมาก
“ปกติเราจะขึ้นโชว์ด้วยกัน แล้วเขาเป็นคนเล่นกีต้าร์ดีกว่าผม ยินดีที่ได้ร่วมศึกครั้งนี้ไปกับเขา
ขอส่งกำลังใจให้กับพ่อแม่ของไผ่ พี่น้องทะลุฟ้า และกลุ่มการเคลื่อนไหว อีกหลายๆ คนที่จะต้องเจออุปสรรค
ถือว่าเป็นด่านทดสอบของเรา ที่เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้” นายไชยอมรกล่าว
นายไชยอมรกล่าวถึงการที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในปัจจุบัน ยกนายไชยอมรเป็นไอคอนของการขับเคลื่อน ต่อสู้ ว่า เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ แต่เอาเข้าจริงแล้วอยากจะยกเครดิตในเรื่องการทุ่มเทให้กับนักกิจกรรมมากกว่า
“จริงๆ แล้วพูดตรงๆ วงสามัญชนน่าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักมากกว่าผม
แต่พอได้รับคำชื่นชมว่า เป็นตัวแทนของการเคลื่อนไหว ก็เหมือนกับมีพนักอยู่บนบ่า จะพยายามทำให้เต็มที่ บวกกับช่วงเวลานี้ที่แกนหลัก เพื่อนๆ ของเรา ที่เป็นทั้งหัวคิด ทั้งบู๊ ทั้งบุ๋น ต้องอยู่ข้างใน (เรือนจำ) หลายคน เป็นช่วงเวลาที่ผมก็ต้องทำงานหนักขึ้น” นายไชยอมรกล่าว
https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=413739930099739
