นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยความคืบหน้าการทำภารกิจ “อันล็อก ไทยแลนด์” (Unlock Thailand) หลังจากได้ร่วมประชุมหารือระหว่างสำนักงานททท. และเอกชนในภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ล่าสุด ได้ข้อสรุปในรูปแบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเชียงใหม่แล้ว ซึ่งจากเดิมรูปแบบการรับนักท่องเที่ยว จะเป็นการรับต่อจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ขณะนี้จะเป็นการรับผ่านสายการบินตรงได้เองทันที ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือ เอกชนจะต้องทำขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐาน (เอสโอพี) เสนอให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากเอสโอพีเดิมที่มี ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยตรง รวมถึงททท. ได้รับทราบในที่ประชุมถึงท่าทีของเอกชนเชียงใหม่ ที่ต้องการให้เปิดรับเที่ยวบินตรงจากต่างชาติภายใน 7 วันหลังจากนี้ทันที ซึ่งประเทศเป้าหมายเป็น เกาหลี เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการ (ดีมานด์) เข้ามาแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็มีชาวเกาหลีเข้ามาท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาสสุดท้าย (ตุลาคม-พฤศจิกายน) ของปีอยู่แล้วในทุกปี โดยในเชิงการตลาดได้แจ้งแล้วว่า จะต้องทำอะไรบ้าง หากจะเปิดรับสายการบินตรง เพื่อให้ชาวเกาหลีเป็นตัวบุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อน โดยในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างททท. สำนักงานททท. ทั้งตลาดเอเชีย และสายการบินต่างๆ เพื่อให้เอกชนเชียงใหม่เสนอเอสโอพีที่จัดทำใหม่เข้ามา เพื่อพิจารณาร่วมกันให้ชัดเจนว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเท่าใด แต่เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง
“ขณะนี้เอกชนเชียงใหม่ ตื่นตัวเต็มที่ในการรอรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบบินตรงเข้าเชียงใหม่ได้เลย ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งจัดทำเอสโอพี เพื่อเสนอให้ผู้ว่าราชการและสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รับรองอย่างชัดเจน จากนั้นททท. สามารถดำเนินการต่อไปได้ทันที ส่วนด้านขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ ต้องบอกว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์อยู่แล้ว มีจำนวนเตียงและเครื่องไม้เครื่องมือในการรักษาผู้ป่วยครบ โดยตอนนี้มีการครองเตียงเพียง 30-40% เท่านั้น สามารถรองรับผู้ป่วยใหม่ได้ถึง 60% จึงไม่มีประเด็นเรื่องสาธารณสุขให้ต้องกังวล โดยการเปิดเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบบินตรงเข้ามาได้นั้น ถือเป็นการเริ่มต้นในการอันล็อกไทยแลนด์อย่างแท้จริง” นายธเนศวร์ กล่าว
นายธเนศวร์ กล่าวว่า แผนการอันล็อกไทยแลนด์ จะประกอบไปด้วย 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นอาเซียน และเวอร์ชั่นเอเชีย ซึ่งไม่เหมือนกัน โดยได้สั่งให้ที่ประชุมทำการบ้านและจัดทำแผนดำเนินการ ซึ่งจะต้องนำมาเสนอในการประชุมวันที่ 11 ตุลาคมนี้ โดยเน้นให้เห็นภาพเดียวกันว่า ตั้งแต่เปิดประเทศมาจะเห็นได้ชัดถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะใกล้ ยังไม่ค่อยมีเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากนัก เนื่องจากจะมีปัญหาในการเดินทางหรือติดข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้คลี่คลายเงื่อนไข กฎเกณฑ์ หรือข้อจำกัดได้มากขึ้น โดยเฉพาะการลดวันกักตัวจากเดิม 14 วัน เหลือ 7 วัน รวมถึงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีวัคซีนใหม่เพิ่มเข้ามาอีก จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะต้องปลดล็อคภาคการท่องเที่ยวประเทศไทยได้แล้ว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวในระยะใกล้เข้ามาเพิ่มเติม จากที่มีประเทศระยะไกลเข้ามาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลาดในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งเป้าเป็นประเทศอินเดีย เกาหลี และสิงคโปร์ โดยยืนยันว่า จะคลิ๊กออฟให้ทันในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แน่นอน แต่นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามามากน้อยเท่าใดนั้น ยังต้องมาติดตามความชัดเจนกันอีกครั้ง
