เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่วัดโลกานุเคราะห์ ถ.เยาวราช ดร.ณพลเดช มณีลังกา ประธานชมรมสามมิตรสัมพันธวงศ์ และอนุกรรมาธิการฯศานสนาฯ กรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันเชิญเทพเจ้าลงมาจากท้องฟ้า โดยตนได้มาร่วมจุดเทียนอัญเชิญเทพที่วัดโลกาฯ ประชาชนได้เตรียมล้างท้องเพื่อกินเจ กิจกรรมเป็นไปอย่างอบอุ่นที่มีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนมาร่วมกิจกรรม พร้อมมีพิธีเชิดสิงโตถือเป็นขนบธรรมเนียมอันดีงามที่ได้กระทำมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปีนี้ทางภาครัฐงดจัดเทศกาล แต่ทางภาคเอกชนโดยเฉพาะโรงเจ ต่างๆ ได้จัดงานกันเพื่อจรรโลงกิจกรรมที่ดีงามทั้งนี้ได้มีมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย
ดร.ณพลเดช กล่าวต่อไปว่า จากที่ได้เดินสำรวจบริเวณ ถ.เยาวราช ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารเจกันอย่างคึกคัก สำหรับร้านค้าได้จัดจำหน่ายอาหารเจบริการให้กับประชาชนในทุกรูปแบบ ใครที่จะมาเดินรับบรรยากาศในเทศกาลกินเจ ปีนี้จะเป็นพิเศษเพียงปีเดียวที่การจัดเทศการกินเจ จัดกันแบบกันเองแบบพ่อค้าประชาชนย้อนยุค ทั้งนี้ตนคาดว่าจากการประกาศเปิดประเทศของรัฐบาล เยาวราชจะเป็นที่แรกในการเปิดประเทศและเปิดกรุงเทพฯ เพราะประชาชนในพื้นที่รู้วิธีป้องกันโควิดและระวังตัวกันอย่างเต็มที่ อีกทั้งได้มีการตรวจโควิดแบบ ATK อย่างต่อเนื่องรวมถึงได้รับวัคซีนแทบจะครบกันในพื้นที่แล้ว หากประชาชนที่ต้องการมาเที่ยวเยาวราช ค่อนข้างจะมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับโควิด เทศกาลกินเจภาคประชาชนในปี 2564 นี้ จากที่มีการประเมินว่าอาจมียอดติดลบครั้งแรกใน 14 ปี นับตั้งแต่การสำรวจปี 2551 จะมีเม็ดเงินสะพัดเพียง 40,000 ล้านบาท แต่สำหรับตนกลับมองว่าเยาวราชจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคัก จะเป็นจุดเปลี่ยนด้วยประชาชนเริ่มรู้วิธีป้องกันและเปิดการค้าขายกันอย่างเต็มรูปแบบแล้ว คาดว่าอาจมีเม็ดเงินสะพัดในเยาวราชถึง 20-60% จากเม็ดเงินทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ภาคประชาชนดำเนินการค้าขายจนเป็นภาพในการค้าขายอย่างปลอดภัยในยุคโควิด19 จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้ถือศีลกินเจ สามารถมาจับจ่ายซื้อของและร่วมเทศกาลกินเจที่เยาวราช ระหว่างวันที่ 6-14 ตุลาคมนี้
