รองโฆษกบช.น.เผยการข่าวยังไม่พบมือที่สามก่อความวุ่นวายกับกลุ่มผู้ชุมนุมมธ.ท่าพระจันทร์ เร่งตรวจสอบสื่ออวตาร-แอดมินเพจทะลุแก๊ซสอนประกอบวัตถุระเบิด หากผิดจ่อดำเนินคดี เอาผิดทางแพ่งม็อบทำรถจีโน่พัง
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 6 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. รองโฆษกบช.น. เปิดเผยว่ากรณีวันที่ 6 ตุลาคม มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มบริเวณภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เริ่มชุมนุมตั้งแต่เวลา 07.00 น. ไปจนถึงช่วงค่ำ มีมวลชนประมาณ 100 คน กลุ่มพลเมืองโต้กลับบริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.00 น. นำโดยพันศักด์ ศรีเทพ และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเยาวรุ่นทะลุแก๊ซ บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.00 น. อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งการมีการจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ยังไม่มีการข่าวการก่อเหตุความรุนแรงแต่อย่างใด แต่หากประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายบริเวณดังกล่าวสามารถส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีได้ต่อไป
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มพลเมืองโต้กลับ การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายแต่อย่างใด ส่วนของกลุ่มที่ก่อความไม่สงบ กลุ่มทะลุแก๊ซประมาณ 10 คน รวมกลุ่มกันบริเวณแยกมิตรไมตรี 2 เมื่อเวลา 19.30 น. โดยยิงเลเซอร์ และขว้างปาประทัด เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ต่อมาเวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่เข้ากระชับพื้นที่ บริเวณแยกมิตรไมตรี 2 เวลา 22.20 น. มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเริ่มมีการจุดไฟเผายางรถยนต์พื้นถนน บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดงและขว้างปาประทัด ระเบิดแสวงเครื่อง อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเวลา 22.25 น. เจ้าหน้าที่ประกาศให้ยุติ ก่อนที่จะเข้ากระชับพื้นที่อีกครั้ง และปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนจนถึงเวลา 04.00 น. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สายตรวจร่วม 191 กองบังคับการปราบปราม และตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 606 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 278 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 328 คดี
ส่วนวันแสดงสัญลักษณ์วันที่ 6 ต.ค.ที่ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์จะมีความรุนแรงหรือไม่นั้น พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นไปตามทุกวันที่มีการครบรอบวันที่ 6 ต.ค. โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 200 -300 คน จากการข่าวยังไม่มีมือที่ 3 มาสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด ส่วนจะมีการค้างคืนหรือไม่ ยืนยันว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้แจ้งว่าจะเคลื่อนที่แต่อย่างใด ขอให้ชุมนุมโดยสะดวกปราศจากอาวุธ มีการตั้งจุดคัดกรองตรวจสอบ หากปราศรัยเกิดพาดพิงรุนแรงอาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจดำเนินคดีตรวจสอบและดูแลความสงบเรียบร้อย
ส่วนสื่อที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้น พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า ทาง ผบช.น. มีประชุมกรณีดังกล่าวที่ บก.สปพ. 191 กรณีของสื่อไร้สังกัดนั้น สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบ หากที่การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียร้อย ไม่เป็นไร หากมีการยั่วยุและบิดเบือนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องพิสูจน์ทราบด้วย ว่าเป็นสื่อที่อวตารเป็นสื่อต่างๆ หรือไม่ ซึ่งถูกตรวจสอบทั้งหมด อย่างกรณีเพจทะลุแก๊ซ มีการลงวิธีการประกอบระเบิด เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ หากดำเนินการก่อเหตุได้แอดมินเพจจะมีความผิดเกี่ยวกับการผลิตวัตถุระเบิด ส่วนวิธีการแยกแยะสื่อมวลชนของเจ้าหน้าที่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการพิสูจน์ทราบ ปรากฎกายไลฟ์สด สื่อที่มีสังกัดมาทำงานอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายสืบสวน
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่ากรณีซ่อมรถจีโน่ ว่ารถจีโน่เสียหายปัจจุบันเหลือ 4 คัน ซ่อม 5 คัน หลังชุมนุมแยกเกียกกายถูกกรอกทรายลงไปในช่องใส่น้ำมันเพื่อรักษายุทโธปกรณ์สิ่งที่ใช้ในการควบคุมมวลชน ตามพ.ร.บ.สาธารณะฯ 48 รายการ อย่าไปตีความว่าราคาสูงเกิดจริง ทั้งที่จากราคาซ่อมจริงตกราคาคันละ 9 ล้านบาทเป็นราคามาตรฐาน มีขั้นตอนปฏิบัติการตามระเบียบตรวจสอบได้ ส่วนทันสิ้นปีหรือไม่ ตอบได้ยากเนื่องจากต้องนำรถคันดังกล่าวไปซ่อมแซมที่ประเทศเกาหลี ส่วนเพียงพอหรือไม่เพียงพอ ต้องจัดสรรให้เพียงพอหากมีการสร้างสถานการณ์เพิ่มเติมตำรวจก็มีการบริหารจัดการต่อไป ส่วนมีการฟ้องร้องทางแพ่งด้วยหรือไม่เป็นไปได้ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนต้องหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งต่อไป
