เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ยื่นคำร้องฝากขัง นายคเชนทร์ ทองดอนสา อายุ 19 ปี ครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ร่วมกันกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร และฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ด้วยเมื่อวันที่ 8 ต.ค. เวลาประมาณ 10.00 น.เศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.พญาไท จับกุมนายคเชนทร์ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 เวลาประมาณ 02.20 น. มีกลุ่มคนร้าย 30-40 คน ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 15-20 คัน เป็นยานพาหนะร่วมกันก่อเหตุขว้างปาระเบิดเพลิง พลุ หนังสติ๊ก สิ่งของ รวมทั้งอาวุธชนิดต่างๆ เข้าใส่อาคารที่ทำการของ สน.พญาไท จากนั้นหลบหนีแล้วไปวางเพลิงที่บริเวณตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกพญาไทจนเกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่เฝ้าระวังที่ทำการจึงช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทันก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ไปยังรถยนต์และทรัพย์สินอย่างอื่น จากนั้นจึงแจ้งให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ผลการตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้นได้รับยืนยันจากเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดว่า พบระเบิดแสวงเครื่องที่ระเบิดแล้วประมาณ 10 ลูก และเก็บกู้ได้ จำนวน 3 ลูก เหตุเกิดที่บริเวณ สน.พญาไท ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ต่อเนื่องถึงตู้ควบคุม
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังยื่นฝากขัง นายขจรศักดิ์ สังข์เมือง อายุ 18 ปี ฐานความผิดลักษณะและวันเวลาใกล้เคียงกันอีก 1 สำนวน โดยร่วมปาระเบิดเข้า สน.พญาไท จนไฟไหม้รถยนต์และทรัพย์สินอย่างอื่น โดยภายหลังศาลอนุญาตฝากขังครั้งแรกแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ในส่วนของนายคเชนทร์ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าได้ไต่สวนพนักงานสอบสวนทางวิดีโอคอลแล้วได้ความว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้จุดระเบิดขว้างระใส่เจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งขณะเกิดเหตุมีการวิดีโอคอลเพื่อเผยแพร่การกระทำความผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนมีภาพถ่ายของผู้ต้องหาขณะกระทำความผิด คดีมีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง
ในส่วนนายขจรศักดิ์ พิเคราะห์แล้วได้ไต่สวนพนักงานสอบสวนทางวิดีโอคอลแล้ว ได้ความว่า เมื่อไปตรวจค้นที่พักผู้ต้องหาพบระเบิดประกอบเองและระเบิดพลาสติกทั้งหมด 5 ลูก คดีนี้มีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง
