เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ เเละ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ ร่วมแถลงคดียาเสพติดพร้อมของกลาง ยาบ้า 962,600 เม็ด ยาอี 180,000 เม็ด เฮโรอีน 38 กก. ยาไอซ์ ประมาณ 3 กก. พร้อมรถของกลาง ที่ ลานเอนกประสงค์ บช.น.
พล.ต.ต.นิธิธรกล่าวว่า กรณีนี้มาจากการประสานงาน บก.สปพ. และ บก.สส. บช.น. มาจากจับกุมเครือข่ายรายใหญ่มาก่อน ทำข้อมูลมาเกือบเดือน จนกลุ่มเครือข่ายขนยาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จับกุมวันที่ 9 ตุลาคม ได้ข้อมูลมาว่ากลุ่มเครือข่ายอาศัยเพชรบูรณ์จะรับยาประจำที่มุกดาหาร ซึ่งดูว่าติดชายแดนประเทศอะไร ส่ง 191 กองกำกับ 2 บก.สส. เมื่อได้ข้อมูลได้เอากำลังออกไป พอถึงจุดหนึ่งทราบว่ารถขนมีการใช้รถตู้ทึบ มีรถนำทาง ชุดสืบสวนทราบลักษณะรถแล้วก็เฝ้าในเส้นทาง และเกาะติดมาเรื่อยๆ จนจังหวดันครราชสีมา ทราบว่ามีกระบวนการ 5 คน และพบผู้หญิงเป็นตัวสำคัญ มีการแวะสถานบริการน้ำมัน พอเข้าเขตนครราชสีมา ผู้หญิงสังเกตเห็นตำรวจ แล้วหลบหนีไปจอดถึงสระโบสถ์ แล้วส่วนหนึ่งตามรถนำ ไปเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าปิดล้อมในไร่อ้อย จนทำให้ผู้หญิง ทราบต่อนหลัง น.ส.อังควิภา การบรรจง อายุ 20 ปี อยู่ในนครราชสีมามอบมาตัว ถ้าไม่จำกุมกรณีนี้จะไป จ.สุพรรณบุรี
พล.ต.ต.นิธิธรกล่าวว่า เฮโรอีน เป็นสิงห์โตเหยียบโลก 1 แท่ง 350 กรัม ราคาขนาดนี้ 1.5 แสนบาท และยาบ้าเคลือบเทียนไขอย่างดี ข้ามแม่น้ำโขงมา และยาอี มีหลายสีม่วง แดง เลือดหมู เป็นมีหัวใจ ซึ่งจะไปพื้นที่ภาค7 และมีไอซ์ และมีการตรวจยึดทรัพย์เพิ่มเติม ส่วนยาเสพติดยาอีเป็นลักษณะใหม่ บ้านเรายังปรุงเองไม่ได้ น่าเชื่อว่ายาอีล็อตนี้มาจากต่างประเทศ ไม่ใช่เพื่อนบ้านเรา เอามาจากต่างประเทศ แล้วส่งเพื่อนบานแล้วเข้าประเทศไทย ปปส.จะตรวจสอบคุณภาพของยา ปลายทางถ้าล็อตนี้ไม่ถูกจับโดยตำรวจนครบาล ทราบว่าจะไปสามชุก จ.สุพรรณบุรี เชื่อว่ามีตัวการใหญ่ รู้อยู่แล้วอยู่ที่ไหน มีผู้รวมกระบวนการรวมผุ้หญิงด้วย 5 คน ซึ่งได้ทำมา 2 ครั้ง ได้ค่าจ้างรวมประมาณ 1 แสนบาท ผู้หญิงได้ 2 หมื่นบาท
พล.ต.ท.สำราญ การจับกุมรายใหญ่ บช.น.มีความมุ่งหมายที่จะให้ชุมชุนใน กทม.ปลอดยาเสพติด ประชาชนที่มีลูกหลานที่ติดยา หรือพบเห็นให้แจ้ง 191 จะมีการปิดล้อมจับกุม