จุรินทร์-นิพนธ์ ดันนิยมอุตฯจะนะ ระเบียงเศรษฐกิจสินค้าฮาลาล ส่งเสริมผลไม้ใต้ไปมาเลย์ พุ่ง 1.4 พันล้าน

จุรินทร์ ร่วม นิพนธ์ ออนทัวร์ เคาะ 3 เรื่อง ดันนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ระเบียงเศรษฐกิจสินค้าฮาลาล พร้อมขับเคลื่อน 17+1 มาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกชายแดนใต้ปี65 เผย 8 เดือนแรก ผลไม้ไทยไปมาเลย์ พุ่งกว่า 1,447 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายภูริพงศ์ พงษ์สุวรรณศิริ นายณรงค์ ดูดิง และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ที่ ห้องประชุมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการหารือประเด็นสำคัญ ได้ข้อสรุปใน 3 เรื่อง เรื่องที่หนึ่ง จะร่วมกันขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจสินค้าฮาลาล มุ่งเน้นสินค้าทางการเกษตรและการเกษตรแปรรูปเป็นหลัก ซึ่ง ศอ.บต.ได้ขับเคลื่อนโครงการสำคัญอย่างน้อย 4 โครงการ

1.โครงการส่งเสริมการเลี้ยงปูเนื้อในชายฝั่งทะเลตั้งแต่จังหวัดสงขลา ปัตตานีและนราธิวาส บริเวณริมฝั่งทั้งหมด มีเป้าหมายลงปูพันธุ์ จำนวน 700,000 ตัว เพื่อที่จะให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปูมีรายได้ในหลายชุมชน ตั้งเป้าหมายว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

Advertisement

2.โครงการเมืองปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้โมเดลโคขุนศรีวิชัยซึ่งจะนำโมเดลนี้มาใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้คาดว่าทำตลาดฮาลาลทั้งในและต่างประเทศต่อไปโดยหวังว่าจะทำรายได้ทั้งโครงการปีละประมาณ 25,000 ล้านบาทในอนาคต

3.โครงการไก่พันธุ์ KKU1 ตั้งเป้าผลิตไก่คุณภาพที่มียูริกต่ำ คลอเรสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ เพื่อส่งเสริมการขายให้กับตลาดที่มุ่งเน้นไก่คุณภาพ
และ

4.โครงการ Fruit Valley มุ่งเน้นทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพของประเทศ เน้นผลไม้สำคัญ เช่นทุเรียน มังคุด เงาะและลองกอง เป็นต้น

นายจุรินทร์กล่าวว่า สั่งการให้ ศอ.บต.ได้สำรวจพื้นที่ลาดชันที่เหมาะสมสำหรับการปลูกทุเรียนเพราะทุเรียนถือว่ายังมีอนาคต มีพื้นที่ที่มีความเหมาะสมจะปลูกทุเรียนซึ่งเป็นพื้นที่ถูกกฎหมายอีกจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้ส่งเสริมต่อไปในอนาคต

นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องที่สอง นิคมอุตสาหกรรมจะนะหรือนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลในอดีตสมัยรัฐบาลชวน 2 (นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 )และมีความคืบหน้ามาโดยลำดับ ถือว่าเป็นโครงการที่ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป เพื่อทำให้นิคมอุตสาหกรรมจะนะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรม BCG และเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว อุตสาหกรรมหมุนเวียนที่จะดำเนินการกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่อไป ในเรื่องของ Bioeconomy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ ในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า การทำให้เป็น Smart City เป็นต้น

เรื่องที่สาม วันนี้ได้เคาะมาตรการส่งเสริมผลไม้ภาคใต้เชิงรุก ปี 2565 ทั้งหมด 17 + 1 มาตรการ รวมเป็น 18 มาตรการ โดย 17 มาตรการเป็นมาตรการที่ได้เคาะไปแล้วในภาคตะวันออก แต่เพิ่มอีกหนึ่งมาตรการคือเร่งรัดให้มีการเปิดด่านจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีด้วยกัน 9 ด่าน เปิดไปแล้ว 7 ด่าน เหลือ 2 ด่าน ที่ยังไม่เปิดคือ ด่านตากใบและด่านบูเก๊ะตา ตนให้ ศอ.บต.ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการเปิดด่านตากใบและบูเก๊ะตาต่อไป หากเปิดได้ครบจะมีผลทำให้การระบายผลไม้ในฤดูการผลิตหน้าไปยังตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์ คล่องตัวมากขึ้น โดยตัวเลขผลไม้ส่งออกไปมาเลเซียเฉพาะปี 2563 มีมูลค่า 765 ล้านบาท แต่ 8 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไปแล้ว 1,447 ล้านบาท หากเปิดอ่านได้ครบจะยิ่งเพิ่มขึ้น

สำหรับมาตรการ 17 + 1 ตัวอย่าง มาตรการสำคัญ เช่น รัฐสนับสนุนการกระจายผลไม้ออกนอกพื้นที่ กิโลกรัมละ 3 บาท สำหรับผู้รวบรวมผลไม้ออกจากพื้นที่ภาคใต้ และล้งที่ช่วยรวบรวมผลไม้จะสนับสนุนผู้ที่ส่งออก รัฐจะช่วยส่งเสริม 2 ตัว คือ 1.ถ้าเป็นเงินกู้ รวบรวมเพื่อส่งออกจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 2.ผู้รวบรวมและส่งออก กระทรวงพาณิชย์จะช่วยกิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อส่งเสริมการส่งออกผู้ที่เข้ามาซื้อทำการตลาด เกษตรกรจะได้รับรู้ว่ากระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยระบายไปตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image