ทับลาน ยังระดมกำลังไล่เสือโคร่งเข้าป่า ติดกล้องเสริมการเฝ้าระวังอีกทาง แต่ไร้วี่แวว
ความคืบหน้า กรณีพบรอยตีนเสือโคร่งขนาดใหญ่ รอยเท้ากว้าง 9 เซนติเมตร ยาวประมาณ 14 เซนติเมตร ภายในไร่มันสำปะหลังด้านทิศใต้ชุมชนบ้านไผ่ หมู่ที่ 4 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งชุมชนเพียง 2 กิโลเมตรเศษ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก และทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน รวมถึงภาคส่วนต่างๆ ได้ระดมกำลังกันค้นหา เพื่อผลักดันเสือตัวดังกล่าวให้กลับเข้าสู่ป่ามาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ยังดำเนินการเฝ้าระวังติดตามหาร่องรอยเสือโคร่งตัวดังกล่าว มานานเกือบ 6 วันแล้ว ซึ่งผลปฏิบัติภารกิจเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติทับลานร่วมกับคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7(นครราชสีมา)
ลงพื้นที่ตรวจสอบ ยังไม่พบรอยตีนเสือโคร่งใหม่ พบเพียงรอยตีนเก่า อายุ 2-3 วันมาแล้ว และจากการเฝ้าระวังด้วยกล้องดักถ่ายอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ (Real Time Camera Trap) หรือ กล้อง NCAPS พบว่า ไม่มีเสือโคร่งออกมา แต่ทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ยังคงส่งกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงใช้กล้อง NCAPS ดักถ่ายอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ (Real Time Camera Trap) เฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของราษฎรในพื้นที่
ขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่ง เดินออกตรวจดูรอยช้างและรอยเสือ บริเวณวัดซับปุยทางด้านทิศตะวันตก พบรอยช้างป่าไม่ชัดเจน เนื่องจากช่วงค่ำมีฝนตกหนัก จึงยากต่อการดูรอยตีนสัตว์ จึงได้จุดประทัดส่งเสียงเพื่อผลักดันช้างเข้าป่า เพราะเชื่อว่า หากสามารถผลักดันช้างป่ากลับเข้าสู่ป่าได้ เสือโคร่งก็น่าจะกลับเข้าสู่ป่าเช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงฝังตัวปฏิบัติภารกิจ ไปจนกว่าจะแน่ใจว่าเสือโคร่งตัวนี้จะกลับเข้าสู่ป่าแล้วจริงๆ
