พล.อ.ประวิตร ติดตามสถานการณ์น้ำกาญจนบุรี พบ2เขื่อนน้ำมากถึง 85% หนุนหน้าแล้งได้เต็มที่

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และแนวทางการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการเตรียมพื้นที่รับน้ำหลากปี 2564 พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ

นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำแม่กลองประกอบด้วย 2 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 22,598 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 85 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 9,321 ล้าน ลบ.ม. โดยมีเขื่อนแม่กลอง ทำหน้าที่ทดน้ำ และส่งน้ำให้กับพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และบางส่วนของ สุพรรณบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี

สำหรับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มแม่กลอง กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามมาตรการเตรียมการรับมืออุทกภัย ด้วยการกำหนดพื้นที่เสี่ยง พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ กำหนดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง กำหนดเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถขุด เรือกำจัดวัชพืช รถบรรทุก เข้าประจำจุดเสี่ยงพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที

ทั้งนี้ เนื่องจากในปีนี้ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก จึงสามารถสนับสนุนน้ำในช่วงฤดูแล้งหน้าได้ทุกกิจกรรม โดยมีแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2565 รวม 9,500 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นช่วงม.ค.-มิ.ย. 2565 รวม 5,700 ล้าน ลบ.ม. และช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2565 รวม 3,800 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ ควบคุมค่าความเค็ม รวมถึงการเพาะปลูกข้าวนาปรังปี 2565 และสำรองน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวนาปีฤดูกาลผลิตปี 2565 ได้อย่างเพียงพอ

Advertisement

สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองจระเข้สามพัน จ.กาญจนบุรี และ จ.สุพรรณบุรี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำระหว่างลุ่มน้ำแม่กลอง ลุ่มน้ำท่าจีน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ด้วยการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง มาช่วยเหลือแม่น้ำท่าจีนในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที และแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตรา 60 ลบ.ม./วินาที ผ่านคลองจระเข้สามพัน และคลองพระยาบันลือ พร้อมปรับปรุงระบบคลองจระเข้สามพัน ทั้งระบบให้สามารถระบายน้ำได้ไม่ต่ำกว่า 80 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งก่อสร้างและปรับปรุง ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำพระยาบันลือให้สามารถสูบน้ำจากแม่น้ำท่าจีนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อีก 24 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ หากโครงการแล้วเสร็จ จะใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ แบ่งปันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง มายังแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ในการผลักดันน้ำเค็มในสภาวะวิกฤติได้อย่างเพียงพอ ทั้งยังใช้เป็นแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางด้านน้ำในการอุปโภคบริโภค ให้แก่พื้นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และอ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นคลอง Bypass พนมทวน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้อีกด้วย

ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน ในการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก พร้อมดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการกักเก็บน้ำเพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้า รวมทั้งพิจารณาแผนการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนแม่กลอง ซึ่งต้องคำนึงถึงการใช้น้ำของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ต้องทั่วถึงอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image