บก.น.5 ออกเอกสารข่าว โต้ประวิงคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นวินด์ฯ “เกษม ณรงค์เดช”ฟ้อง“คุณหญิงกอแก้ว” เปิดไทม์ไลน์ หลังอัยการไม่อนุญาตให้เลื่อน พร้อมให้ตำรวจขอหมายจับต่อศาล นำตัวส่งพนักงานอัยการโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ทีมโฆษกกองบังคับการตำรวจนครบาล 5(บก.น.5) ได้ออกเอกสารข่าวแถลงความคืบหน้า คดีอาญาที่ 9/2562 สน.ทองหล่อ ระหว่างนายเกษม ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา โดยมีใจว่าสน.ประวิงการส่งตัว คุณหญิงกอแก้วให้กับพนักงานอัยการ ในคดีปลอมลายเซ็นนายเกษม ในสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนในการซื้อขายหุ้นบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่โฮลดิ้งจำกัดนั้น
บช.น.5 ได้ติดตามความคืบหน้าเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวกับสน.ทองหล่อแล้วพบว่า เมื่อ 3 มกราคม 62 นายเกษม ได้มาร้องทุกข์กล่าวดทษต่อพนงงัยการสอบสวนสน.ทองหลอ ให้ดำเนินคดีนายณพ ณรงค์เดช ผู้ตอ้งหาคนที่ 1 และคุณหญิงกอแก้ว ผู้ต้องหาที่2 และน.ส.สุภาพร วงษ์อนันต์ ผู้ต้องหาคนที่ 3 ในข้อหา”ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม”โดยนายเกษม ได้ตรวจพบว่ามีการปลอมแปลงลายมือชื่อของตนในเอกสารสัญญาแต่งตั้งตัวแทน,ตราสารการโอนหุ้น,ใบสำคัญการซ์้อขายหุ้น,สัญญาซื้อขายหุ้นในบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่โฮลดิ้ง จำกัด แล้วนำเอกสารดังกล่าวไปใช้ตามสถานที่ต่างๆเป็นเหตุให้ตนได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้
หลังจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว พบว่าเหตุความผิดบางส่วนเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร(ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20) อำนาจการสอบสวนจึงเป็ฯของอัยการสูงสุด
โดย 10 เมษายน 2562 สน.ทองหล่อ ได้มีหนังสือรายงานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา และอัยการสูงสุดได้มีหนังสือมอบหมายให้ผกก.สน.ทองหล่อ เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ โดยได้แต่งตั้งพนักงานอัยการมาร่วมทำการสอบสวนด้วย ซึ่งสน.ทองหล่อได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับพนักงานอัยการมาโดยตลอด
17 ธันวาคม 2563 พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสนออัยการสูงสุดพิจารณา
7 มิถุนายน 2564 อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสามคน โดยให้สน.ทองหล่อ ส่งตัวผู้ตอ้งหาไปพบอัยการเพื่อฟ้องคดีในวันที่ 28 มิถุนายน 2564
28 มิถุนายน 2564 ผู้ต้องหาทั้งสามคน มีหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบอัยการเป็นวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เนื่องจากคุณหญิงกอแก้ว ป่วยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
29 มิถุนายน 2564 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใด้ 1 ได้มีหนังสือให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสาม มาฟ้องภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2564
8 กรกฎาคม 2564 ผู้ต้องหาทั้งสามแจ้งขอเลื่อนนัดการเข้าพบพนักงานอัยการเนื่องด้วยสถานการณ์โควิดและเหตุผลอื่น โดยจะขอเข้าพบอัยการในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 พนักงานสอบสวนจึงมีหนังสือถึงพนักงานอัยการแจ้งเหตุขัดข้องดังกล่าว
20 กรกฎาคม 2564 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้1 ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปฟ้อง ภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2564
27 กรกฎาคม 2564 ผู้ต้องหาทั้งสามขอเลื่อนัดการเข้าพบอัยการ โดยแจ้งว่าขอเลื่อนเข้าพบอัยการในวันที่ 25 สิงหาคม 2564
5 สิงหาคม 2564 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้1 ได้มีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปฟ้อง ภายใน วันที่ 31 สิงหาคม 2564
30 สิงหาคม 2564 ผู้ต้องหาทั้งสามขอเลื่อนนัดการเข้าพบอัยการ โดยแจ้งเหตุขัดข้องว่าอยู่ระหว่างการร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการฯ ขอเลื่อนเข้าพบอัยการเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564
1 กันยายน 2564 อัยการพิเศษฝายคดีอาญากรุงเทพใต้1 มีหนังสือให้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาฟ้อง ภายใน 4 ตุลาคม 2564 ถ้าส่งไม่ได้ให้พนักงานสอบสวนทำการขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามต่อศาล พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทั้งสามมาพบในวันที่ 4 ตุลาคม 2564
4 ตุลาคม 2564 ผู้ต้องหาทั้งสามคน มีหนังสือขอเลื่อนเข้าพบอัยการเป็นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 โดยผู้ต้องหาทั้งสามได้แจ้งเหตุขัดข้องในการเข้าพบ พนักงานสอบสวนได้แจ้งเหตุขัดข้องดังกล่าวให้กับพนักงานอัยการทราบ
20 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. สน.ทองหล่อได้รับหนังสือจากอัยการพิเศษฝ่ยคดีอาญากรุงเทพใต้1 ว่า ไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งสามคน เลื่อนการเข้าพบพร้อมให้สน.ทองหล่อ ทำการขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามต่อศาล และให้นำผู้ต้องหาส่งให้พนักงานอัยการโดยเร็ว
ผกก.สน.ทองหล่อ ยืนยันว่าจะยื่นคำร้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามคนในวันที่ 25 ตลุาคม ซึ่งเป็นวันเปิดทำการวันแรกของศาล จากช่วงวัยหยุดยาว(21-24ตุลาคม) โดยในคดีนี้ ทางสน.ทองหล่อ ได้มีการแจ้งความคืบหน้าในการสอบสวนและการดำเนินการให้ผู้เสียหายทราบเป็นระยะโดยตลอด ซึ่งเมื่อได้รับหนังสือจากอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้1 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้วนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งทางผู้เสียหายให้ทราบข้อเท็จจริงถึงกำหนดการยื่นคำร้องขอออกหมายจับ ซึ่งหากศาลอนุมัติหมายจับหรือมีความคืบหน้าในการดำเนินการเป็นอย่างไร จะได้นำเรียนให้ทางสื่อมวลชนทราบต่อไป