กต.สั่ง ‘สอท.-สกญ.’ เร่งชี้แจงนักท่องเที่ยว 46 ประเทศบินเที่ยวไทย 1 พ.ย. ‘พิธา’ ซัดเปิดปท.ตามยถากรรม
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามข้อกำหนดเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 46 ประเทศเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ (สอท.และ สกญ.) ไทยทั่วโลกเพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน ว่าตามที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศมากขึ้น กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จึงร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลสร้างแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ Thailand Pass จะสร้างความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากยิ่งขึ้นและลดขั้นตอนการอนุมัติที่ไม่จำเป็นลง โดยให้ผู้เดินทางลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป หลังจากที่ตั้งแต่ต้นปี 2563 ได้ขอผ่านระบบการขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี) ออนไลน์ ซึ่งอำนวยความสะดวกคนไทยและต่างชาติเข้าประเทศไทยไปแล้วกว่า 4.7 แสนคน
“กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการซักซ้อมระบบการลงทะเบียนใหม่นี้กับ สอท.และ สกญ.เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น โดยบทบาทหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ก็จะปรับจากการเป็นผู้อนุมัติหรือออกใบรับรองเดินทาง ตามรูปแบบของซีโออีมาเป็นผู้ช่วยประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำในการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนอนุมัติจาก สอท.และ สกญ.อีกต่อไป” นายธานีกล่าว และว่า กระทรวง สอท.และ สกญ.ของไทยทุกแห่งกำลังเร่งประชาสัมพันธ์รูปแบบและเงื่อนไขการเดินทางเข้าไทยในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางจาก 46 ประเทศ/พื้นที่ โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งการเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือ Sandbox Programme และการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยเข้ารับการกักตัว เพื่อให้ผู้เดินทางมีความเข้าใจและปฏิบัติตามแนวทางได้อย่างถูกต้อง
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมประชุมรับฟังปัญหาและข้อกังวลจากตัวแทนภาคธุรกิจการท่องเที่ยว เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ถึงความกังวลเกี่ยวกับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ จ.กระบี่
นายพิธากล่าวว่า รัฐบาลที่มีหน้าที่บริหารประเทศ จึงควรเป็นผู้ที่มีความคิด มีวิสัยทัศน์ เข้าใจถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ วิกฤตโควิดทำให้เห็นได้ชัดระหว่างรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์และรัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ รัฐบาลที่ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งและรัฐบาลที่ถือประโยชน์ของนายทุนเป็นที่ตั้ง
“หากมีรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ ตอนเปิดแซนด์บ็อกซ์ จะได้ทดลองรูปแบบวิธีการป้องกันและอยู่ร่วมกับโควิดในรูปแบบต่างๆ ที่ผ่านมาจึงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ ไม่ได้ทดลองอะไรเลย เป็นการเปิดแซนด์บ็อกซ์ที่ไร้วิสัยทัศน์ เปิดแบบตามยถากรรม พรรค ก.ก.ยืนยันว่าต้องเปิดประเทศ แต่คำถามคือพร้อมแล้วหรือยัง การที่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังมัดมือชกคนทั้งประเทศเพียงเพราะไม่อยากผิดคำพูดที่ตอนแรกพูดว่าจะฉีดให้ได้ 50 ล้านโดส ก่อนเปิดประเทศ แต่สุดท้ายก็ฉีดไม่ถึง อย่างจังหวัดกระบี่ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพียง 60% และเข็มที่สองเพียง 30% เช่นนี้คือพร้อมแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่ และได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อยกระดับทางการแพทย์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโควิดเพียง 1.7 ล้านบาท ไม่แน่ใจจริงๆ ว่ารัฐบาลเอางบไปไหน ไปอุ้มใคร แต่ที่เห็นได้ชัดๆ คือไม่ใช่ประชาชน”
