เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โฆษก บช.น.เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่าประเทศไทยส่งออกถุงมือยางที่ใช้แล้วไปประเทศสหรัฐอเมริกาและเกี่ยวข้องกับแก๊งอุ้มรีดชาวไต้หวันในพื้นที่ของ สน.ทองหล่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา นั้นขอชี้แจงว่าทั้งสองคดีมีความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันจริงซึ่งคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหารวม 23 คน โดยพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการตรวจสำนวนแล้วเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่อัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม 2 ประเด็น คือ คดีนี้เป็นการกระทำผิดบางส่วนเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร จึงต้องส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินการพิจารณาตีความ และพยานที่สอบปากคำนั้นเป็นการสอบสวนผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในช่วงสถานการณ์ แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้น้ำหนักไม่เพียงพอ พนักงานสอบสวนจึงต้องเชิญพยานมาสอบปากคำด้วยตัวเองในเดือนพฤศจิกายนก่อนจะสรุปสำนวนทั้งหมดส่งอัยการอีกครั้ง
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่าขอชี้แจงว่ากระบวนการดังกล่าว แม้ผู้ต้องหาจะครบกำหนดการฝากขังและเดินทางกลับประเทศไปแล้ว พนักงานสอบสวนยังมีอำนาจในการสอบสวนและทำสำนวน หากสำนวนสามารถสรุปและสั่งฟ้องได้ ก็จะทำการเรียกตัวผู้ต้องหามาเพื่อทำการส่งฟ้องต่อไป อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ตรวจสอบว่า พนักงานสอบสวนมีความบกพร่องในการทำสำนวนหรือไม่
