เปิดตัว โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ สยาม ธารา โฟลทติ้ง อย่างเป็นทางการ หลัง COD ให้ AHTH ยาว 25 ปี

ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำพิธีเปิดตัวโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ หรือโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ “สยาม ธารา โฟลทติ้ง (STF)” มูลค่าลงทุนกว่า 200 ล้านบาท อย่างเป็นทางการที่โครงการของบริษัท เขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่่ผ่านมา

โครงการ สยาม ธารา โฟลทติ้ง เป็นโครงการนำร่องภาคเอกชนแห่งแรกของบริษัท สยาม ธารา โฟลติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทฯ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งและเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ดำเนินการภายใต้อายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้แก่ บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AHTH ระยะเวลา 25 ปี (Private PPA) ใช้พื้นที่ดำเนินการของโครงการทั้งหมดประมาณ 69 ไร่ โดยได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา

“โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ สยาม ธารา โฟลทติ้ง เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ TSE ได้มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานสะอาดเพื่อประโยชน์แก่ลูกค้าและชุมชน และเป็นก้าวย่างสำคัญเพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Neutrality) อย่างแท้จริง เราเชื่อว่าพลังงานจากแสงอาทิตย์จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นการเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอนอย่างแท้จริงในอนาคต” ดร.แคทลีน กล่าวและว่า ซึ่งได้รับความไว้วางใจจาก AHTH ที่เล็งเห็นความสำคัญในการใช้พลังงานสะอาด และช่วยตอบสนองนโยบาย Green Energy สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เองถึง 12.5 ล้านหน่วยต่อปี (12.5 GWh/year) โดยได้นำพื้นที่บ่อน้ำในโครงการของบริษัทมาใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์แก่ชุมชนในท้องที่ให้ทราบถึงการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้งานอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด รวมทั้ง บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่ง TSE ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการร่วมกับทีม SCG Chemicals

“บริษัทฯ มุ่นมั่นที่จะขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานทดแทนรูปแบบอื่นๆ ตามนโยบายการสนับสนุนการลงทุนในพลังงานทดแทนของภาครัฐ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ดร. แคทลีน กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image