เปิดคุณสมบัติอีกด้าน กัญชาช่วยเสริมความงาม
ภายหลังภาครัฐปลดล็อกนำกัญชาบางส่วน มาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ได้สร้างความคึกคักในตลาดอาหารและสุขภาพในประเทศไทย ทว่าคุณประโยชน์กัญชาไม่ได้มีแค่นั้น
ดร.สริตา ปิ่นมณี นักวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์กรมหาชน) หรือ สวพส. ซึ่งเป็นผู้ดูแล”โครงการวิจัยและพัฒนากัญชงและพืชสกุล Cannabis เป็นพืชเศรษฐกิจและพืชทางเลือกใหม่บนพื้นที่สูง” เล่าว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า กัญชา (Marijuana) และ กัญชง (Hemp) มีสารสำคัญคือ สาร CBD (Cannabidiol) และ THC (Tetrahydrocannabinol) จัดเป็นสารในกลุ่มคานนาบินอยด์ (Cannabinoids) ซึ่งมีประโยชน์ทางการแพทย์
ในส่วนสาร CBD นอกจากออกฤทธิ์เพื่อลดอาการปวด อาการอักเสบ ลดความกังวล และควบคุมอาการชักได้ โดยไม่เป็นพิษต่อระบบประสาท อีกทั้งยังมีดีต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่รับยาเคมีบำบัดเมื่อใช้ยามาตรฐานไม่ได้ผล, ลดอาการเบื่ออาหารน้ำหนักลดในผู้ติดเชื้อเอชไอวี, ควบคุมอาการปวดเรื้อรัง, ลดปวดและคลื่นไส้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย, บรรเทาอาการซึมเศร้า, บรรเทาอาการโรคเบาหวาน ฯลฯ
ทั้งนี้ ยังมีคุณสมบัติด้านความสวยความงามคือ สามารถออกฤทธิ์ต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นบำรุงและปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน กระตุ้นการผลัดเซลล์สร้างผิวใหม่ ลดรอยแดง รอยดำดูจางลง เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ตลอดจนสามารถลดปัญหาสิว โดยสาร CBD ไม่ทำให้เกิดการดื้อหรือติด
ดร.สริตากล่าวอีกว่า ตอนนี้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ CBD เป็นสินค้าขายดีในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์ประเภท ครีม โลชั่น สบู่ แชมพู ลิปบาล์ม รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ยาหม่อง เป็นต้น โดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ สารสกัด CBD ที่มี THC ไม่เกิน 0.2% ไม่เป็นยาเสพติด สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ได้แก่ ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ทำผลิตภัณฑ์ เช่น ยา อาหาร สมุนไพร และเครื่องสำอาง โดยมีข้อแม้ให้สารสกัดดังกล่าว จะต้องได้จากกัญชงหรือกัญชาที่ผลิตภายในประเทศเท่านั้น หากเป็น CBD ที่ได้จากการนำเข้ายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ดังนั้นถ้าต้องการใช้ CBD ต้องปลูกกัญชง หรือกัญชาเองในประเทศไทย
ดร.สริตากล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบัน สวพส. และมูลนิธิโครงการหลวง ได้ร่วมกันปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์กัญชงให้มีปริมาณ CBD สูง และ THC ต่ำ โดยมีเป้าหมายให้ได้พันธุ์ที่มีปริมาณ CBD สูง 20% ภายในปี พ.ศ. 2570
