ตำรวจปปป.อายัดเงิน 60 ล.ลูกศิษย์ใกล้ชิด ‘หลวงพ่อพัฒน์’ ตรวจสอบหาแหล่งที่มา

จากกรณีกลุ่มลูกศิษย์ “หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม” หรือ พระราชมงคลวัชราจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดธารทหาร หรือ ห้วยด้วน ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถอดถอนผู้ดูแลของหลวงพ่อพัฒน์ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เนื่องจากมีคนบางกลุ่มซึ่งเป็นคณะกรรมการฝ่ายฆราวาส แสดงพฤติกรรมอันเป็นที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยการนิมนต์หลวงพ่อพัฒน์ ออกจากวัดไปประกอบศาสนกิจบ่อย ๆ เดินทางไปไกล จนเป็นเหตุท่านหมดสติขณะออกกิจนิมนต์ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสินแพทย์ จ.กาญจนบุรี จนเกิดความไม่พอใจกับศิษยานุศิษย์อีกทั้งยังเป็นประเด็นให้สังคมและผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงปู่พัฒน์ ทวงถามถึงการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพของท่าน เพราะด้วยสภาพสังขารของท่านที่มีอายุ 100 กว่าปีพร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ทรัพย์สินของผู้ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อ นั้น

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน  ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทาง บก.ปปป.ได้รับหนังสือร้องเรียน และมีการร้องเรียนโดยตรงให้ตรวจสอบพฤติกรรมของไวยาวัจกร คณะกรรมการและบุคคลใกล้ชิด ว่ามีการนำเงินของวัดไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ทาง บก.ปปป.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งขอเข้าพบหลวงพ่อพัฒน์เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบครั้งนี้ โดยหลวงพ่อเข้าใจเจตนาของทางเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดเอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเอกสารการจัดสร้างวัตถุมงคล รวมทั้งตรวจสอบรายได้ของวัด และเงินที่ได้รับบริจาค ซึ่งหลังจากนี้จะนำเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบ ก่อนคัดแยกที่มาของรายรับรายจ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบข้อมูลจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ถูกร้องเรียน ว่ามีเงินอยู่ในบัญชีผู้ที่ถูกร้องเรียนกว่า 60 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ หลายรายการ เบื้องต้นจึงทำเรื่องขออายัดเงินสดพร้อมทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ โดยวันอังคารที่ 9 พ.ย. ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลุ่มคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ เข้าให้ข้อมูลถึงที่มาของเงินดังกล่าว รวมถึงข้อมูลที่ทางชุดสืบสวนได้มา อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ บก.ปปป จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมสามารถคลายข้อสงสัยให้บรรดาลูกศิษย์และประชาชนที่รอคำตอบให้กระจ่างชัดมากที่สุด

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า มีการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 รายเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวลำดับที่ 1.นายสว่าง (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี ประธานฝ่ายฆราวาส หรือ ไวยาวัจกร และเป็นหลานของหลวงพ่อ เป็นเงินจำนวน 50 ล้าน เนื่องจากเจ้าตัวไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้, 2.นางวาด (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี คณะกรรมการ เป็นเงิน 4 ล้านบาท หลานห่างๆ ของหลวงพ่อ และลำดับที่ 3.นางสาวสมใจ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี คณะกรรมการลูกสาวของนางวาด เป็นเงิน 2 ล้านกว่าบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image