มร. โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะได้รับผลกระทบจากการหยุดดำเนินการของร้านค้าปลีก รวมทั้งการชะลอตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทฯยังสามารถคงยอดขายไว้ได้ โดยการมุ่งเน้นไปที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีความต้องการในตัวสินค้าอยู่ โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ส่วนใหญ่มาจากช่องทางโมเดิร์นเทรด คิดเป็น 58% ดีลเลอร์ 22% การค้าแบบ B2B 11% และอีคอมเมิร์ซ 9%
มร.โรลันด์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้นับเป็นโอกาสที่ดีให้บริษัทฯได้กลับมาทบทวนและประเมินแผนธุรกิจและลูกค้าของบริษัทฯใหม่ จึงช่วยให้สตีเบล เอลทรอน สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่าง C-Segment ที่มีราคาที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นได้มากขึ้น ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้โดยไม่ต้องลดจำนวนพนักงานหรือลดเงินเดือนพนักงาน
มร. โรลันด์ กล่าวว่า ในปีนี้ได้นำผลิตภัณฑ์ต่างๆออกจำหน่ายตามโจทย์ความต้องการของลูกค้า จากการศึกษาพบว่าปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของสินค้า ระยะเวลาการส่งมอบ และการให้ความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในการช่วยประหยัดเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นซีรีย์ใหม่ “Safe-Save Series” ที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดปริมาณงบประมาณ ได้แก่ รุ่น DE, AQE และ WS E-2 โดยทั้งสามรุ่นนี้ออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยที่เป็นครอบครัวใหญ่ ผู้พักอาศัยอยู่คนเดียว และกลุ่มผู้ที่เริ่มทำงาน ทั้งนี้ กำหนดวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งสามรุ่นที่เป็นการขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาด้วย เริ่มกลุ่มภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนขยายไปยังภูมิภาคอื่น คาดการณ์ยอดขายรวมปีนี้จะโตได้ 5% เทียบกับปี 2563 เพราะรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และมีการเปิดประเทศแล้ว
