เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤมิชอบ (บก.ปปป.) น.ส.จิรัชญา ดวงสะเก็ด ตัวแทนจากเครือข่ายธรรมาภิบาลเชียงใหม่-สมุทรปราการ พา น.ส.ปณิตา ชินวัตร หลานสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ภัทร พะยอม รอง สว.สอบสวน กก.3.ปปป. เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบคำสั่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ว่าเป็นการออกโดยชอบหรือไม่
น.ส.ปาณิตากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่ สสว.มาประมาณ 19 ปี ซึ่งตำแหน่งล่าสุดคือการเป็นที่ปรึกษาและรักษาการ รอง ผอ.สสว. กระทั่งเมื่อปี 2559 มีคำสั่ง ม.44 ให้มาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ต่อมา ปี 2562 ก็มีคำสั่งให้ตนกลับมาทำงานที่เดิม ในตำแหน่งที่ปรึกษา โดยให้เหตุผลว่าไม่ปรากฏมีความผิดใดๆตนก็ปฏิบัติหน้าที่เรื่อยมา กระทั่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ทาง สสว.ประกาศเปิดรับบุคลากรมาดำรงคำแหน่ง รอง.ผอ.สสว. แต่ตนไม่ได้ลงสมัครเนื่องจากเห็นว่ามีผู้อาวุโสอยู่แล้ว ต่อมาเดือนตุลาคม 2564 ทาง สสว.ประกาศรับสมัคร บุคลากรตำแหน่งรอง ผอ.อีกครั้งหนึ่ง จึงลงสมัครด้วยพร้อมทั้งสอบสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ ตามระเบียบ แต่การเปิดรับสมัครครั้งนี้แตกต่างจากเดิมคือมีการเพิ่มคุณสมบัติของผู้สมัคร ในระดับผู้ช่วย และที่ปรึกษาที่มีอายุงานเกิน 1 ปี สามารถสมัครได้ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นอาวุโสอันดับ 1 จึงเห็นว่าทาง สสว.น่าจะพิจารณาตามระเบียบเดิมที่ผ่านมา อีกทั้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาทางบอร์ดคณะกรรมการควรจะเปิดเผยรายชื่อแต่ก็ยังไม่มีคำสั่งแต่อย่างใด ทำให้เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งจึงอยากให้ทาง บก.ปปป.ตรวจสอบคำสั่งของ สสว.ที่ออกมาถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป