รัว 16 นัด “พี่สาวต่างแม่-พี่เขย” ดับ ปมขโมย กล้วยแดงอินโด มูลค่า 1.2 แสน  หลานเจ็บ

รัว 16 นัด “พี่สาวต่างแม่-พี่เขย” ดับ ปมขโมย กล้วยแดงอินโด มูลค่า 1.2 แสน  หลานเจ็บ

เมื่อเวลา 23.57 วันที่ 3 ธันวาคม พ.ต.ท.วีรวิทย ลภัสจารุสกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 2 รายในบ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวนสภ.เมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ไปที่เกิดเหตุ ในบ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.นครปฐม พบนายคุณากร ปัญญาเตียม อายุ 57 ปี และนางสาวสุกัญญา ภู่แก้ว 49 ปี นอนเสียชีวิต ที่เกิดเหตุ มีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่เกลื่อนจำนวน 16 ปลอก ซึ่งเป็นปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้กระสุนยิงผู้เสียชีวิตตกอยู่บริเวณภายในบ้านที่เกิดเหตุ และเศษหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกัน ตกอยู่ 6 ชิ้นส่วน นายฆนากร ปัญญาเตียม ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ส่วนคนก่อเหตุคือนายสมเจตน์ ภู่แก้ว อยู่บ้านติดกัน เลขที่ 59/2 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม

จากการสอบสวนนายฆนากร คนเจ็บบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและ นายคุณากร และนางสาวสุกัญญา ภู่แก้ว พ่อ-แม่ ได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายสมเจตน์ ภู่แก้ว จากกรณีที่นายสมเจตน์ เคยก่อเหตุลักทรัพย์ต้นกล้วยแดงอินโด ไปจากบ้านที่เกิดเหตุ (เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 คดีความมีกำหนดนัดหมายฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ธันวาคม 2564) ซึ่งได้มีปากเสียงท้าทายกันมาตลอด และวันนี้นายสมเจตน์ เดินมาที่บ้าน ใช้อาวุธปืนยิงนางสาวสุกัญญา และนายคุณากร เสียชีวิต ส่วนนายฆนากร ได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นขาขวา หลังจากก่อเหตุแล้วนายสมเจตน์ ได้หลบหนีไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 01.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม  จากการสืบสวนพบว่านายสมเจตน์ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 59/2 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว และเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว กระทั่งนางสาวประวีณา วงษ์คงคำ ภรรยานายสมเจตน์ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบในบ้านและควบคุมต้วนายสมเจตน์ แล้วนำตรวจค้นบ้านพบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ STAR ขนาด 9 มม.ไม่พบเครื่องหมายทะเบียนปืน และหมายเลขประจำปืน อยู่ในตู้เย็น แม็กกาซีน 2 อัน โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” ซึ่งนายสมเจตน์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่าทั้งสองฝ่ายเป็นญาติกัน และเป็นคู่กรณีกัน ในเรื่องลักทรัพย์ ต้นกล้วยแดงอินโด มูลค่า 120,000 บาท ซึ่งนายสมเจตน์ เป็นน้องต่างมารดา กันกับนางสาวสุกัญญา ซึ่งเคยให้นายสมเจตน์ นำต้นกล้วยแดงอินโด ที่ขโมยไปมาคืนแล้วจะไม่เอาเรื่อง แต่นายสมเจตน์ นำกล้วยแดงอินโด ที่เหลือแต่ตอมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ทำให้เกิดเรื่องดำเนินคดีกัน และระหองระแหงกันมาตลอด กระทั่งมาก่อเหตุสลด และเชื่อว่านายสมเจตน์ต่องการฆ่าล้างครัว แต่หลานหนีทันเลยรอดตาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image