บช.น.แถลงตั้งแต่ ก.ค.มามีคดีม็อบ800กว่าคดี ดำเนินคดีไปแล้วครึ่งนึง เมื่อคืนจับ37ม๊อบจะนะ ขณะที่รอบแฟลตดินแดงปัจจุบันสถานการณ์สงบแล้ว
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมประชาสัมพันธ์ กรณีการชุมนุมในวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งมีการรวมตัวของกลุ่มคณะราษฎร ยกเลิก 112 และกลุ่มแนวร่วม บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เวลา 13.00 น., กลุ่มขุนพลคนของราษฎร บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพ เวลา 16.00 น. กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น.
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้จัดเตรียมกำลังพลเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยสำหรับการชุมนุม โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2564 กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนทางด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส ไม่พบการรวมกลุ่มในพื้นที่แต่อย่างใด
จากกรณีที่มีการชุมนุมกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 6 ธันวาคม(การชุมนุมของชาวบ้านจะนะหรือจะนะรักษ์ถิ่น)นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 37 ราย
ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่ายชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค (ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ)” ซึ่งผู้ต้องหาแบ่งเป็นชาย 6 ราย และหญิง 31 ราย
ในส่วนของสถานการณ์บริเวณรอบแฟลตดินแดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายเชิงรุกของ ผบ.ตร. ซึ่ง ผบช.น. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ และจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรการ 3 สร้าง ได้แก่ สร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ และสร้างความสงบสุขให้แก่ประชาชน ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 800 คดี ขณะนี้สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 401 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 399 คดี
นอกจากนี้ บช.น. ยังขอย้ำเตือนไปยังผู้ที่คิดก่อเหตุความไม่สงบ และผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมโดยผิดกฎหมายว่า หากมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวทุกราย ขอเน้นย้ำว่า
แม้กรุงเทพมหานครจะถูกปรับให้เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวแล้ว แต่การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค ยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวม
