ไบเดนวอน 111 ชาติร่วมมืออุ้มประชาธิปไตย ที่กำลัง ‘ไถลถอยหลัง’ 

(AP Photo/Susan Walsh)

ไบเดนวอน 111 ชาติร่วมมืออุ้มประชาธิปไตย ที่กำลัง ‘ไถลถอยหลัง’

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ยืนยันในระหว่างการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย หรือซัมมิท ฟอร์ เดโมแครซี ที่สหรัฐอเมริกาจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริงผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และเชื้อเชิญผู้นำ 111 ชาติเข้าร่วม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ว่าประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังอยู่ในสภาพ “ลื่นไถลถอยหลัง” และเรียกร้องให้บรรดาผู้นำที่ร่วมประชุมร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาในการส่งเสริมสถานะของสถาบันประชาธิปไตยในแต่ละประเทศ

“เราจะปล่อยให้การลื่นไถลถอยหลังของประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพต่างๆ เกิดขึ้นต่อเนื่องต่อไปโดยไม่ทำอะไรเลยหรือ? หรือเราจะร่วมมือกัน ร่วมกันภายใต้วิสัยทัศน์และความกล้าหาญ เพื่อก้าวเดินนำให้มนุษย์ได้รุดหน้าและให้เสรีภาพของมนุษย์รุกคืบต่อไปได้อีกครั้งหนึ่ง” ไบเดนระบุ

ผู้นำอเมริกันแสดงความกังวลต่ออิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของฝ่ายตรงกันข้าม โดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศอย่างรัสเซียและจีนออกมาโดยตรง แต่ย้ำหลายครั้งว่า สหรัฐและพันธมิตรประชาธิปไตยที่คิดเห็นเหมือนกันต้องแสดงให้โลกเห็นว่าประชาธิปไตยเป็น “พาหนะของสังคม” ที่ดีกว่าเผด็จการ และย้ำว่าสิ่งนี้เป็นจุดโฟกัสสำคัญในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาในยุคตน

ไบเดนยอมรับตรงไปตรงมาว่า แม้แต่ชาติประชาธิปไตยที่มีรากฐานมั่นคงยาวนานอย่างสหรัฐ ก็ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันจากการอิทธิพลของความคิดอำนาจนิยมในบางเวลา บางขณะ ซึ่งไบเดนเรียกว่าเป็น “จุดเบี่ยงเบนในประวัติศาสตร์”

Advertisement

“ที่นี่ในสหรัฐอเมริกาเรารู้ดีเหมือนกับทุกๆ คนว่า การฟื้นฟูบูรณะประชาธิปไตยของเรา การสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันประชาธิปไตยของเรา จำเป็นต้องพยายามกันในทันทีนี้” ผู้นำสหรัฐอเมริการะบุ ก่อนที่จะประกาศความคิดริเริ่มจัดสรรงบประมาณ 424 ล้านดอลลาร์ สำหรับใช้ในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนองค์ประกอบประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่สื่อมวลชนอิสระ, การต่อต้านการคอร์รัปชั่น และอื่นๆ

ในระหว่างการประชุมบรรดาผู้นำของประเทศต่างๆ พากันแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่เป็นสุนทรพจน์ที่บันทึกไว้ล่วงหน้าในการประชุมครั้งนี้ และชี้ให้เห็นถึงปัญหาท้าทายที่ประชาธิปไตยเผชิญอยู่ในเวลานี้ รวมทั้งการคอร์รัปชั่น, ความเหลื่อมล้ำ, และการคุกคามจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน ผู้นำเหล่านี้ยังแสดงความกังวลเพิ่มมากขึ้นต่อการกระจายข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ หรือบิดเบือนโดยเฉพาะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายและแสดงความวิตกต่อการที่ระบอบเผด็จการเข้มแข็งมากขึ้นอีกด้วย

Advertisement

หลังการประชุม เอกอัครราชทูตจีนและรัสเซียประจำสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ความเรียงที่เขียนร่วมกันในประเด็นว่าด้วยการประชุมครั้งนี้ เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า รัฐบาลไบเดน กำลังแสดงออกถึง “แนวคิดสงครามเย็น” ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิด “การเผชิญหน้าเชิงอุดมการและความร้าวฉานเกิดขึ้นในโลก” และชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังถูกตรวจสอบในแง่ของการตัดสินใจเชิญประเทศหนึ่งประเทศใดเข้าร่วม โดยไม่เชิญอีกประเทศหนึ่ง และแสดงความกังขาว่าสหรัฐอเมริกาจะผลักดันเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image