3 ศิษย์เก่า เบญจมฯ ออกโรงแจงเหตุไม่เลือก ผู้สมัครศิษย์เก่าเป็น ผอ.

3 ศิษย์เก่า เบญจมฯ ออกโรงแจงเหตุไม่เลือก ผู้สมัครศิษย์เก่าเป็น ผอ.

วันที่ 11 ธันวาคม ได้มีแถลงการณ์ส่งทางโซเชียล ลงนามโดย นพ.อิสระ หัสดินทร์ (เบญจมราชทิศ 77 (1719) นายอรรถพล ตรึกตรอง (เบญจมราชูทิศ 80(2021) และนางวิไลวรรณ ดาราพงศ์ (เบญจมราชูทิศ 82(2224) เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการชี้แจง โดยให้เหตุผลว่ากระบวนการพิจารณาทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง บริสุทธิ์ และยุติธรรม

ทั้งนี้ในเอกสารฉบับดังกล่าว มีข้อความระบุว่า

“กราบเรียนคณาจารย์ และพี่น้องชาวขาวแดงทุกท่าน ด้วยข้าพเจ้าทั้ง 3 คน เป็นกรรมการ/ผู้แทนฯกศจ. นครศรีธรรมราช และแต่ละคนเป็นกรรมการหนึ่งใน 7 คน จากทั้งหมด 15 คน ที่ไม่ลงมติเลือกศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศเป็นผู้อำนวยการ บม. และเป็นผู้ลงมติ 3 คน จาก 7 คนดังกล่าว ที่มีฐานะเป็นศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ จึงขอกราบเรียนคณาจารย์และพี่น้องชาวขาวแดงทุกท่านว่า ได้ออกเสียงไปตามเหตุผล และตามระเบียบปฏิบัติ (ว.7) คือ

Advertisement

1.เป็นไปตามคะแนนวิทยาศาสตร์ (แตกต่างกันไม่มาก และคะแนนสูงสุดเป็นของ ผอ.รร.เชียรใหญ่ฯ) รวมกับคะแนนวิสัยทัศน์ (คะแนนรวมต่างกันเล็กน้อย) ของคณะกรรมการประเมินศักยภาพ อันประกอบ ด้วย ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา 5 ท่าน และศึกษาธิการจังหวัดอีก 1 ท่าน รวมทั้งหมด 6 ท่าน

 

Advertisement

2.เป็นไปตามมติเสียงข้างมาก 5:3 ของอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อ.กศจ.บุคคล) 8 ท่าน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเสียงข้างมากใน อ.กศจ.บุคคล ทั้ง 5 ท่าน จะเห็นคล้อยตามคณะกรรมการประเมินตามข้อ 1.โดยมิได้แสดงเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรประกอบการพิจารณา (เนื่องจากมิได้มีความเห็นแย้ง) แต่คณะกรรมการ กศจ.ทุกคน ก็มิได้ละเลยที่จะพิจารณาเอกสารหลายสิบหน้าพร้อมทั้งรับฟังความเห็นแย้งจากอนุกรรมการเสียงข้างน้อยทั้ง 3 ท่านในที่ประชุมอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่เมื่อพิจารณาแล้ว ก็ไม่อาจหักล้างเสียงข้างมากของ อ.กศจ.บุคคลได้ เนื่องจากเป็นการพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจในการให้คะแนน อันไม่อาจตัดสินได้ว่าดุลยพินิจของใครถูกต้องที่สุด เฉกเช่นการนับอาวุโสของผู้บริหาร ที่จะต้องนับเริ่มจากการเข้าสู่ตำแหน่งรอง ผอ. ซึ่งปรากฏว่านายณัฐวุฒิอาวุโสสูงสุด หรือการครองตำแหน่ง ผอ.รร.ขนาดใหญ่เพียง 15 วัน ก็ไม่สามารถนำมาหักล้างเกณฑ์ตาม ว.7 ได้ เฉกเช่นเดียวกับข้าราชการที่เกิดวันที่ 1 ตุลาคมปีถัดไป ต้องเกษียณอายุพร้อมกันกับผู้ที่เกิดวันที่ 30 กันยายนปีก่อนนั้น ส่วนผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมเป็นต้นไป จึงจะสามารถไปเกษียณอายุในปีถัดไป

หมายเหตุ: คณะกรรมการ กศจ.สามารถพิจารณาแต่งตั้งผู้ได้คะแนนลำดับถัดไปตามความเห็นของคณะกรรมการประเมินตามข้อ 1. ได้ เฉพาะในกรณีที่เป็นมติเสียงข้างมากของ อ.กศจ.บุคคล (แต่ต้องมีเหตุผลประกอบอย่างชัดเจน) แต่ไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้โดยใช้เหตุผลประกอบหลายสิบหน้าของอนุกรรมการเสียงข้างน้อยแต่อย่างใด

ข้าพเจ้าทั้ง 3 คน เห็นด้วยที่จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ถ้าหากผลของการตัดสินออกมาเป็นเช่นไร ทุกคนก็จะได้ปฏิบัติเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเลือดขาวแดงควรจะได้รับทราบเหตุผล ที่มาที่ไป ที่ตรงตามเนื้อผ้า และที่สำคัญคือ เพื่อฟื้นคืนความรัก-ผูกพัน สามัคคี-กลมเกลียว และความร่วมมือเพื่อความเจริญก้าวหน้าของสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งตลอดไป จึงขอยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจนถึงคำฟ้องทุกกรณี
จึงขอกราบเรียน กราบขออภัย และกราบขอความกรุณาคุณครูอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ขาวแดงทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ครับ
ลงชื่อ
1.นพ.อิสระ หัสดินทร์ เบญจมราชูทิศ77(1719) 2.นายอรรถพล ตรึกตรอง เบญจมราชูทิศ80(2021)
3.นางวิไลวรรณ ดาราพงศ์ เบญจมราชูทิศ 82(2224) 10 ธันวาคม 2564

ผู้สื่อข่าวรายงาน แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งระบุว่า การพิจารณาของคณะอนุกรรมการทุกชุด พิจารณาคัดเลือกกันอย่างละเอียด รอบคอบ เราพิจารณาทั้งเอกสารและฟังเสียงข้อมูลจากภายนอกทุกด้าน และเมื่อมีการพิจารณากัน เราต้องมานั่งถกเถียงกัน ถึงขั้นชี้หน้าและเคืองกันก็มี แต่เราทำทุกอย่างก็เพื่อความถูกต้อง เพราะชื่อโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ควรเป็นหน้าตา เป็นภาพลักษณ์ที่ดี สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ได้พิจารณาคัดเลือกเพื่อคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้เลือกว่าเป็นอาจารย์ของใคร เป็นญาติของใคร คณะอนุกรรมการทุกคนที่คิดเช่นนี้จึงมีความเห็นพ้องต้องกันว่า คนนครศรีธรรมราชต่างหากที่ควรภาคภูมิใจว่า โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นับจากนี้ไป จะเป็นโรงเรียนที่ใครก็ฝากไม่ได้ เด็กอยากเรียนก็ต้องตั้งใจสอบ เราต้องการให้มีเด็กที่เรียนเก่ง และมีคุณธรรม จบไปแล้วกลับมาช่วยจังหวัด ช่วยประเทศ ช่วยสังคม สร้างชื่อเสียงให้จังหวัด

“สุดท้ายผลสรุปคะแนนได้ลำดับที่ 1 มีการร้องขอให้ได้ลำดับที่ 2 กรณีนี้เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.ขอนแก่น สุดท้ายมีการร้องศาล ติดคุกกันเสียชื่อเสียง เสียหายกันหนักมาก ปธ.อ.กศจ.ติดคุก 6 ปี อ.กศจ.คนอื่นๆ ติดคนละ 2 ปี แล้วจะให้พวกเราต้องมาติดบ่วงตามความปรารถนาส่วนตัวเท่านี้หรือ แล้วส่วนรวมเพื่อคนนครศรีธรรมราช แล้วเด็กตาดำๆ ที่จะต้องมีอนาคตที่ก้าวหน้าจะอยู่ตรงไหน หากเราไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ แล้วเราจะทำได้เมื่อไหร่ อย่างน้อยบทเรียนครั้งนี้ จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับลูกๆ ขาวแดง และเลือดขาวแดงจะต้องเข้มข้นและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป”

ต่อข้อถาม หากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร้องศาล และสุดท้ายวินิจฉัยออกมาว่า อ.กศจ.มีความผิด จะยอมรับได้หรือไม่ว่า ถ้าเป็นการพิจารณาที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก พวกเราก็พร้อมและยอมรับผลจากการกระทำ แต่ก็คงไม่ใช่เฉพาะพวกเราเท่านั้น ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วน ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญอีกหลายท่านก็ต้องโดนติดคุกด้วยเช่นกัน การพิจารณาคะแนนวิทยาศาสตร์หลักฐานยืนยันชัดเจน เอามาบวกรวมกัน คะแนนที่ได้ยังน้อยกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำไป แต่จากการแสดงวิสัยทัศน์บอกว่าจะทำอย่างไรกับ รร.เบญจมฯต่อไปในอนาคต ที่สามารถบอกได้ว่า บุคคลท่านนี้คิดอย่างไรกับ เบญจมฯ พวกเราภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ และเราจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กไปต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image