ยังไม่ทันที่รัฐบาลจะประกาศให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้แสดงความพร้อมยิ่งกว่ารัฐบาลออกมาแล้ว
ทั้งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครอิสระ และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร จากพรรคประชาธิปัตย์
ต่อไปนี้คือเนื้อหานโยบายของ 2 ว่าที่ผู้สมัครที่โชว์เป็นตัวอย่างก่อนศึกการเลือกตั้งจะปะทุขึ้นไม่เกินกลางปี 2565 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัญญา
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครอิสระ
นโยบายเน้น 4 ด้าน ภายใต้สโลแกน “เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” ประกอบด้วย
1.People เรื่องคน เน้นระบบเส้นเลือดฝอยและคุณภาพชีวิต
2.Digital เรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล ต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดขั้นตอน
3.Green เรื่องสิ่งแวดล้อม เน้นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยะ ควันพิษ ฝุ่น
4.Economy เรื่องเศรษฐกิจ เพราะเมืองอยู่ได้ด้วยเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจมีปัญหาเมืองต้องมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจของคนให้มากขึ้น พยายามสร้างโอกาสคน ลดขั้นตอน หนุนให้เศรษฐกิจฟื้นคืนมา
เน้น ทำกทม.เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ไม่ตั้งเป้าให้เป็นเมืองมหานครระดับโลกหรือเป็นเมืองอัจฉริยะ เน้นทำให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แล้วต่อไปจะกลายเป็นมหานครของโลกได้
การทำให้เมืองน่าอยู่ต้องไปเน้นที่เส้นเลือดฝอย คือสิ่งเล็กๆ ที่อยู่ใกล้บ้าน ไม่ว่าทางเดินเท้า ท่อระบายน้ำ ถนน ฟุตปาธ อากาศพิษ ควบคู่ไปกับเมกะโปรเจ็กต์
เรื่องค่าเดินทางของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเอาให้จบ ค่าตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอส ถ้าดูตามต้นทุนแล้ว ค่าโดยสารน่าจะไม่เกิน 35 บาท
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัคร จากพรรคประชาธิปัตย์
เน้นสโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้”
นโยบายด้านการศึกษา ตั้งใจให้กทม.มีโรงเรียนสาธิตทุกเขต ให้เด็กเรียน 2 ภาษา รู้โค้ดดิ้ง รู้ AI รู้ควอนตัม
เปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นเมืองสวัสดิการ ดูแลพลเมืองทุกคนอย่างมีคุณภาพ ทั้งการจัดการสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขนส่งมวลชน ถนน ฟุตปาธ การจัดการศึกษาฟรี ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ และการดูแลรักษาพยาบาลตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึงสูงอายุ
การเข้าถึงสินค้าอาหารการกินได้ง่ายราคาถูกและปลอดภัย เป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการเรียนรู้ ทำมาหากินได้ดี เดินทางสะดวกเข้าถึงทุกพื้นที่ ทุกคนเท่าเทียม มีสวนสาธารณะขนาดย่อมทั่วกรุงเทพฯ คนเดินได้ สัตว์เลี้ยงเดินดี ใกล้บ้าน ต้องใช้กฎหมายเท่าเทียม เข้มข้น เพื่อดูแลทุกคน เท่าเทียม
นโยบายแก้น้ำท่วม ใช้แก้มลิงใต้ดินแบบกรุงโตเกียว วางแผนประตูกั้นน้ำทะเลหนุนแบบเนเธอแลนด์ หรือแบบเมืองเวนิส
นโยบายแก้รถติด ใช้ระบบสัญญาณจราจรอัตโนมัติ ควบคุมด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI เหมือนสิงคโปร์ โตเกียว ปักกิ่ง นิวยอร์ก ลอนดอน ไม่ต้องใช้บริการตำรวจจราจร
อินเทอร์เน็ตต้องฟรี ส่งเสริมการเรียนรู้ ทำมาหากิน เข้าถึงโอกาสในการค้าขายออนไลน์
เทคโนโลยีเตือนภัยพลเมือง เรื่องฝนตก น้ำท่วม และรายงานฝุ่นพิษ PM 2.5
เพิ่มพื้นที่จราจร มีทางจักรยานลอยฟ้า ทำพื้นที่ใต้ดินทำมาค้าขายเหมือนสิงคโปร์ โตเกียว กรุงโซล
เปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นเมืองต้นแบบของอาเซียน
