บทนำมติชน : กรณี‘สิระ’

บทนำ : กรณี‘สิระ’ ศาลรัฐธรรมนูญมติ 7 ต่อ 2 ว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.ของ นายสิระ

ศาลรัฐธรรมนูญมติ 7 ต่อ 2 ว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.ของ นายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลง เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต จึงเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) นายสิระพ้นจากสมาชิกภาพนับแต่วันเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นในการนับสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับจากวันที่ 22 ธ.ค.ที่ศาลอ่านคำวินิจฉัย

ผลจากคำวินิจฉัยทำให้ตำแหน่ง ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ ว่างลง กกต.ต้องจัดเลือกตั้งซ่อมใน 45 วัน นายสิระต้องพ้นตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ต้องคืนเงินเดือนของ ส.ส. ต้องคืนเงินเดือนผู้ช่วย ส.ส., ผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ชำนาญการ ต้องคืนค่าเดินทาง และประโยชน์อื่นใด ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ต้องชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด กกต.จะต้องดำเนินคดีตามมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ.2561 ที่บัญญัติว่า ผู้สมัครใดรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติมีสิทธิรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี นอกจากนี้ ยังกระทบถึงพรรคพลังประชารัฐที่ส่งนายสิระลงสมัครจะต้องรับผิดตามกฎหมายอีกด้วย

ถือว่าเป็นเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนฯ นายสิระเองถือเป็นคนดังของสภา และเกิดคำถามว่า ระบบการกลั่นกรองของ กกต.ของพรรคการเมืองเอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ หรือเกิดปัญหาขึ้นอย่างไรหรือไม่ ที่เปิดช่องปล่อยให้บุคคลที่ขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง และยังได้ทำหน้าที่ ส.ส.มาเกินครึ่งวาระของสภา โดยถือว่าเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทสูง เป็นประธานกรรมาธิการสามัญในสภา และมีบทบาทในการปะทะกับพรรคฝ่ายค้านทั้งในและนอกสภา หลังจากนี้ สังคมคาดหวังว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการต่างๆ ทั้งเรื่องคดีและการคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับรัฐให้เห็นผลโดยเร็ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image