แบรด พิตต์ พยายามคิดบวก หวังปี 2022 จะเป็นปีที่ดี
ย่างเข้าปี 2022 หรือปี พ.ศ.2565 กันแล้ว แบรด พิตต์ พระเอกฮอลลีวู้ด ที่ยังเท่ สมาร์ท แม้อายุจะเต็ม 58 ปีมาตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ก็เป็นคนหนึ่งที่หวังว่า ปี 2022 จะเป็นปีที่ดีกว่าปีที่แล้ว
นิตยสารพีเพิล อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดพระเอกคนดัง เปิดเผยว่า “ปีที่แล้ว (2564 ) เป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคนที่ต้องอยู่กับโควิด และกองถ่ายต้องถ่ายทำท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโควิด”
แต่ถึงกระนั้น พิตต์ ซึ่งยังมีคดีเรื่องสิทธิการดูแลบุตรค้างคาอยู่ในขั้นตอนศาลกับ แองเจลินา โจลี นางเอกฮอลลีวู้ด อดีตภรรยา ที่สู้คดีกันมายาวนานนับแต่แยกทางกันเมื่อปี 2559 ก็ “พยายามคิดในแง่บวก และมองไปข้างหน้า ทั้งหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิม”
ส่วนปัญหาเรื่องสิทธิดูแลลูกๆทั้ง 6 ซึ่งโตเป็นหนุ่มสาวกันหมดแล้ว ทั้งแมดด็อกซ์ ลูกชายบุญธรรมชาวกัมพูชาวัย 20 , แพ็กซ์ เทียน ลูกชายบุญธรรมชาวเวียดนาม วัย 18 ,ซาฮารา ลูกสาวบุญธรรมชาวเอธิโอเปียวัย 16 , ไชโลห์ ลูกสาวแท้ๆวัย 15 และ วิเวียน กับ น็อกซ์ ลูกแฝดหญิง-ชายวัย 13 ปี ซึ่งสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น หากฟังจากคำบอกเล่าของแหล่งข่าวรายนี้ที่ว่า ” สถานการณ์กับเด็กยังเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันแย่ นี่คือสิ่งที่มันเป็น ลูกๆคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขา แต่ยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่างที่คุณต้องเจอ”
แต่ถึงกระนั้น แหล่งข่าวก็มองว่า พิตต์ต้องก้าวผ่านปัญหาชีวิตที่ดูน่าจะสร้างความทุกข์ใจแก่พิตต์มากที่สุดไปได้ เพราะพระเอกคนดังมี “ที่พักพิงที่แข็งแรง”ให้ชาร์ตแบต
“เขาเป็นที่รักอย่างแท้จริง ผู้คนชอบเขาจริงๆ และเขาก็มีกลุ่มคนใกล้ชิดที่คอยช่วยเหลือ คอยเป็นกำลังใจแก่เขา”
สำหรับชีวิตการงาน มีข่าวว่า พิตต์มีภาพยนตร์ใหม่ 2 เรื่องกับ แซนดรา บุลล็อก ที่มีกำหนดออกฉายในปี 2565 ได้แก่ เดอะ ลอสต์ ซิตี (The Lost City )มีโปรแกรมฉายปลายเดือนมีนาคม 2565 และบุลเล็ท เทรน (Bullet Train)
ทั้งนี้ พระเอกหนุ่มใหญ่ พ่อลูก 6 เคยพูดถึงการทำงานในวงการภาพยนตร์ ขณะที่เริ่มมีอายุมากขึ้นว่า เขาไม่สามารถถ่ายหนังได้หามรุ่ง หามค่ำ อดหลับอดนอนได้เหมือนก่อน อีกทั้งการแสดงบทโลดโผนก็ต้องใช้ นักแสดงแทน
ส่วนเรื่องสไตล์ที่ยังเท่ และดูดีในหนังโฆษณาเครื่องชงกาแฟเดอ ลองกี ที่พิตต์ได้รับเลือกเป็นนายแบบ เป็น แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ เจ้าตัวบอกว่า ” เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณหงุดหงิดง่ายขึ้น ดังนั้นความรู้สึกสบายจึงมีความสำคัญมากขึ้น ผมคิดว่ามันง่ายๆแบบนั้น “
