เปิดใจ สาวถูกทหารยศสิบตี หลอกเช่ากระบะ ไปขายกองกำลังทหารกะเหรี่ยง ต้องไปตามไถ่คืน

สาวราชบุรีร้องผ่านติ๊กต๊อก ถูกทหารหลอกเช่ารถไปขายที่ชายแดน จนต้องไปซื้อรถตัวเองคืน

จากที่มีผู้ใช้ tiktok ชื่อ annnatcha 111986 wfh แชร์ประสบการณ์ ถูกคนร้ายหลอกเช่ารถยนต์กระบะ แล้วนำไปขายต่อฝั่งพม่า สุดท้ายตามหาจนเจอ เพราะจีพีเอส ระบุพิกัด อยู่ฝั่งตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เจ้าของรถประสาน ตชด.344 ให้พาข้ามฝั่ง ช่วยเจรจากับทหารชนกลุ่มน้อยไม่ทราบฝ่าย แต่กว่าจะได้รถคืนมาไม่ใช่ง่าย ๆ

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้เสียหาย พูดคุยและสอบถามเรื่องราวความเป็นมา ทราบชื่อคือ นางสาวนัชชา บดินทร์เดชา อายุ 37 ปี  ชาว  ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 65 ได้มีผู้มาติดต่อขอเช่ารถเป็นทหารยศสิบตรี มาขอเช่ารถ 3 วัน อ้างว่าเช่ามาเพื่อขนของจากภรรยาที่ กทม.มา จ.กาญจนบุรี ซึ่งก็ได้มีการตรวจสอบเอกสารทุกอย่างแล้ว พบว่าน่าเชื่อถือเป็นทหารจริง จึงได้ให้เช่าไป

แต่มามีพิรุธตอนวันที่ 11 มกราคม 65 ทางผู้เช่าได้โทรมา และบอกให้เช็คจีพีเอสให้ทีเนื่องจากลูกน้องเอาไปขับ ตนก็เลยเอะใจและบอกไปว่ารถไม่มีจีพีเอส แต่ในสัญญาระบุว่าห้ามนำรถไปให้ผู้อื่น ถ้าเกิดความเสียหายผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งนายทหารคนนั้นก็บอกว่าติดต่อลูกน้องได้แล้ว แต่เมื่อเช็คจีพีเอส พบล่าสุดว่าวิ่งไป อ. สังขละบุรี ก่อนจะตีกลับมาที่ ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จากนั้นจีพีเอสรถก็ไปอยู่นิ่งที่ห้างเซนทรัล ศาลายา จ.นครปฐม แต่เมื่อเช็คจีพีเอส อีกตัว ซึ่งทางผู้เช่านั้นไม่ทราบว่าเราติดไว้สองตัว ก็พบว่ารถนั้นไปอยู่ที่ จ.ตาก จึงพยายามติดต่อคนเช่า แต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองราชบุรี และเดินทางไปติดตาม โดยประสานไปยังตำรวจ และทหาร ที่ จ.ตาก และได้มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ จนพบว่า รถนั้นข้ามชายแดนไปแล้ว และจีพีเอสอีกตัวก็ไปขึ้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศไทยประมาณ 20 – 30 กิโลเมตร และได้ส่งพิกัดดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ ตชด.344 เพื่อประสานงานขอรถคืน และได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่ตชด. 344

Advertisement

ทางเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับกองกำลังกะเหรี่ยง พร้อมทั้งแจ้งว่า ให้ ทางเจ้าของรถเตรียมเงินสดมา 1 แสนบาท เพื่อมาไถ่รถคืน แต่พอมาตอนเช้าอีกวันขอเป็นเงิน จำนวน 430,000 บาท ซึ่งก็พยายามต่อรอง ใช้เวลาคุยกันประมาณ 5 ชั่วโมง สุดท้ายจบที่ 180,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกรวมแล้วต้องจ่ายประมาณ 250,000 บาท จึงได้รถคืนมา และเมื่อตรวจสอบภายในรถก็พบตัวบล็อกสัญญาณ จีพีเอส วางอยู่บริเวณช่องเก็บของใกล้คันเกียร์ ทำให้ทราบว่าสิ่งนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้จีพีเอสไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งตนก็ได้พยายามติดต่อทางผู้ที่มาเช่ารถ จนทำให้ทราบว่าผู้เช่านำรถไปขายให้กับหญิงสาวรายหนึ่ง และหญิงสาวรายดังกล่าวได้ส่งรถไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติหญิงสาวรายนี้ก็พบว่า มีคดีทั้ง ฉ้อโกง และยักยอก หลายคดีในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ด้วย

จึงอยากจะฝากเตือนให้เป็นอุธาหรณ์ สำหรับผู้ที่มีรถให้เช่า ให้ระวังให้ดี เพราะขนาดตนเองนั้นละเอียดรอบคอบในเรื่องเอกสารหลักฐานและตรวจสอบประวัติยังโดนจนได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image