เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นห้องเช่าซอยลาดพร้าว 40 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังสืบสวนพบรถตู้สีขาวของอาสาสมัครมูลนิธิ 1 คัน ตรงกับในภาพวงจรปิดจุดเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับอาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่ง บริเวณแยกพงษ์เพชร เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัด พบนายทศพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อาสาสมัครผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว อยู่ในห้องเช่าและสมัครใจให้ตรวจค้นพร้อมนำอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และทะเบียนอาวุธมาแสดงให้ ก่อนเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งสองห้อง
แหล่งข่าวกล่าวว่า เบื้องต้นนายทศพลยอมรับว่าเป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้าจริงแต่ยิงเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินที่มากับรถเนื่องจากก่อนหน้าเกิดเหตุระหว่างกลับจากการซื้อขายรถยนต์กำลังจะขับรถไปเอาของกับเพื่อนอาสาที่แยกพงษ์เพชร รับแจ้งประชาชนร้องขอความช่วยเหลือรถเสีย บริเวณปั๊มน้ำมันถนนประชาชื่น-นนท์ จึงขับรถไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันมีน้องโทรมาบอกว่ามีกลุ่มอาสาอีกมูลนิธิเข้ามาที่จุดจอดแยกพงษ์เพชร จึงขับออกจากปั๊มแล้วใช้เส้นทางเลียบคลองประปา พบรถจักรยานยนต์ 2-3 คัน ขับสวนทางมาในลักษณะส่ายไปมาขวางถนนลักษณะจะควักอาวุธบางอย่างออกมาตอนนั้นทางค่อนข้างมืด และไม่ทราบจุดประสงค์ของกลุ่มจักรยานยนต์ จึงนำปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 2 นัด เพื่อเป็นการข่มขู่ก่อนจะรีบขับรถหนีออกมามุ่งหน้าบ้านพัก
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 พร้อม พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง สน.โคกคราม มาร่วมสอบปากคำเพื่อหาความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในทั้งสองพื้นที่ เบื้องต้น พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าวภายหลังเข้ามาสอบปากคำนายทศพล ว่าภาพรวมคดีนี้ทั้งสองฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายทศพล ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ ทำให้คดีมีความคืบหน้าพอสมควร และทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันรู้เรื่องดี ทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง จึงแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะและยิงปืนในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนทนายความจะมีการยื่นวงเงิน 5 หมื่นบาท เพื่อประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการ
พล.ต.ต.อรรพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินการ ป้องกันเหตุหลังมีการมอบนโยบายเกี่ยวกับการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ บก.น.2 ดำเนินการตรวจสอบค้นรถอาสาสมัครตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ตรวจค้นรถอาสาสมัครทุกมูลนิธิมาแล้วมากกว่า 100 คัน ยังไม่พบว่ามีคันใดที่มีการพกพาอาวุธอยู่ภายในรถ ซึ่งนโยบายนี้จะคงดำเนินการต่อไปตลอดเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงของรถอาสาสมัครกู้ภัยขึ้นอีกในอนาคต
