อธ.อัยการ สคช.สนองนโยบายอสส.ขับเคลื่อนช่วยเหลือกม.ปชช.นำร่อง 9 จว. “สิงห์ชัย”ลงพื้นประเมินผลการทำงาน 5 ก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายชัยพร เกริกเกียรติกุลธร อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ,นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ,นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ,นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงผลงานของสำนักงานอัยการสูงสุด รอบปี 2564 และทิศทางการดำเนินงานเชิงรุก ในปี 2565 ตามที่นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด คนที่ 16 แถลงนโยบายการบริหารงานไว้

นายชัยพร เปิดเผยว่าสำหรับในปี 2565 สำนักงานอัยการสูงสุดพร้อมขับเคลื่อนภารกิจเชิงรุก โดยมุ่งเน้นการให้บริการและเป็นที่พึ่งด้านกฎหมายของรัฐและประชาชน ตามนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุดที่แถลงไว้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นอัยการสูงสุดจึงมอบหมายให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกฎหมายอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยจัดให้มีโครงการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนวันหยุดราชการ (วันเสาร์) ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. โดยเปิดให้บริการนำร่องในระยะแรก 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดราชบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประชาชนต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมาก และสำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเปิดให้บริการสายด่วนให้คำปรึกษากฎหมาย 1157 ในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.และวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายสิงห์ชัย อัยการสูงสุด จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการดังกล่าว ในพื้นที่ดำเนินการของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อประเมินผลการทำงานในเบื้องต้น และวางแผนแนวทางการทำงานเชิงรุกต่อไป

นายชัยพร กล่าวต่ออีกว่านอกจากนี้ยังจะมีโครงการจัดบริการรถโมบายเคลื่อนที่ซึ่งเป็นโครงการเชิงรุกที่สำคัญอีกหนึ่งโครงการของสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ให้บริการด้านกฎหมายเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้นและจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันยังไม่คลี่คลายส่งผลให้สำนักงานอัยการสูงสุดต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งได้นำระบบอัยการช่วยได้ “OAG-Lawaid” มาให้บริการประชาชนในด้านการยื่นคำร้องขอปรึกษาปัญหากฎหมาย หรือยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือ และติดตามสถานะเรื่องที่ขอคำปรึกษาปัญหากฎหมาย หรือขอรับความช่วยเหลือ รวมทั้งแจ้งเตือนการนัดหมายกับพนักงานอัยการ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงกระบวนการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายที่หลากหลาย ได้รับข้อมูลกฎหมายที่ถูกต้อง ครบถ้วน จากพนักงานอัยการที่เชี่ยวชาญ รวมถึงประหยัดเวลา สะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการจัดทำระบบสืบพยานออนไลน์เพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว กระชับ
สำหรับประชาชนที่ต้องการติดต่อหรือรับข้อมูลข่าวสารด้านกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุดได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อให้สามารถสื่อสารกับประชาชนได้อย่างทั่วถึงและสอดคล้องกับยุคการสื่อสารในปัจจุบันอีก 3 ช่องทาง ได้แก่ Line OA : @oagth เฟซบุ๊ก สำนักงานอัยการสูงสุด ยูทูป สำนักงานอัยการสูงสุด OAGTH

ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า ด้านการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้บริการเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในด้านต่าง ๆ จำนวน 88,559 รายโดยแยกเป็น การคุ้มครองสิทธิทางศาลแก่ประชาชนตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ จำนวน 16,626 ราย การให้ความช่วยเหลือทางอรรถคดีโดยจัดหาทนายว่าต่างแก้ต่างแก่ประชาชน จำนวน 1,194 ราย การให้ความช่วยเหลือในการทำนิติกรรมต่าง ๆ จำนวน 319 ราย การให้คำปรึกษาปัญหากฎหมาย จำนวน 66,621 ราย การช่วยเหลือประนอมข้อพิพาทแก่ประชาชน จำนวน 3,799 ราย สำหรับการให้บริการความรู้ทางกฎหมาย ?มีการให้บริการแก่ประชาชน จำนวน 49,711 ราย โดยแยกเป็น การสนับสนุนการประนอมข้อพิพาทและการระงับข้อพิพาททางแพ่งโดยอนุญาโตตุลาการในระดับท้องถิ่น จำนวน 2,064 ราย การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายต่าง ๆ แก่ประชาชน จำนวน 41,287 ราย และงานฝึกอบรมความรู้แก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ จำนวน 6,360 ราย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image