ศาลสั่งริบรถตู้-จยย.กักขัง ‘บอม รังสิต’ ช่างแต่งรถพร้อมเด็กแว้นปิดถนนเอเชียแข่ง

เมื่อวันที่ 27 มกราคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตร. หรือ ศปข.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.สมพล ใจดี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางฯ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเรื่องปัญหากลุ่มวัยรุ่นออกมาแข่งรถ ในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.พัลลภ สืบสวนและวางแผนบูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามทางโซเชียลวางกำลังซุ่มดูตามสถานที่เสี่ยงหรือปั๊มน้ำมันในเขตพื้นที่ ที่ได้รับการร้องเรียน จนพบกลุ่มรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ขับมาจอดอยู่ริม ถนนสายเอเชีย บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน สาขาสายเอเชีย กม.2 (ขาขึ้นนครสวรรค์) โดยกลุ่มดังกล่าวมีการปล่อยรถจักรยานยนต์แข่งกันเป็นคู่ๆ เพื่อแข่งรถในทางบนถนนสายเอเชียมุ่งหน้า จ.อ่างทอง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตุการณ์จับกุมวัยรุ่น 5 คน อยู่ภายในตัวรถยนต์ตู้โตโยต้า ทะเบียน 3ฒณ 2634 กรุงเทพมหานคร ตรวจค้นภายในรถตู้ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และอุปกรณ์ปรับแต่งรถจำนวนมาก จึงนำตัวและตรวจยึดรถยนต์ตู้และรถจักรยานยนต์มา สภ.พระอินทร์ราชา ทราบชื่อนายวิชาญ หรือบอม สงวนนามสกุล หรือ “ช่างบอม รังสิต” เจ้าของร้านแต่งรถที่มีชื่อเสียงย่านรังสิตปทุมธานี นายชาตรี สงวนนามสกุล,นายศุภณัฐ สงวนนามสกุล,นายอภิสิทธิ์ สงวนนามสกุล และ น.ส.นิชนิภา สงวนนามสกุล

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า สอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย มาตามการนัดหมายจากนายเอฟ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “เรียก’เอฟ คำเดียวหัน(ไม่ซิ่งก็นอน)” เป็นผู้นัดหมายให้มาขับรถเล่นแข่งกันโดยนัดหมายที่หน้าห้าง ย่านรังสิต ซึ่งนายวิชาญเป็นเจ้าของรถตู้ขนรถจักรยานยนต์มาเพื่อจะแข่งตามที่นายเอฟนัดหมาย แต่เมื่อมาถึงปรากฏว่าไม่พบนายเอฟ กลุ่มผู้ต้องหาจึงขับรถมาจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และนำรถจักรยานยนต์มาจับคู่แข่งกันในบริเวณดังกล่าวจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมพนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 รายฟ้องต่อศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในศาลแขวงพระนครศรีอยุธยามีคำพิพากษาลงโทษ นายวิชาญ จำคุก 2 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง ส่วนนายชาตรี, นายศุภณัฐ, นายอภิสิทธิ์ และ น.ส.นิชนิภา ลงโทษจำคุก 1 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง และศาลมีคำสั่งพิพากษาริบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถตู้) และรถจักรยานยนต์ของกลางฯทุกคัน

รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ปัญหาการแข่งรถในทางฯ เป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงการรวมตัวมั่วสุมออกมาแข่งรถทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ หากท่านพบเบาะแสการแข่งรถในทางหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือสามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image