เมื่อวันที่ 27 มกราคม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.ปุณญรัชน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 179/2562 ลงวันที่ 22พฤศจิกายน 2562, หมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 103/2563 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2563 โดยกล่าวหาว่าและหมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 169/2564 ลงวันที่ 1 กันยายน 2564 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค, ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น” ทั้งสามหมายจับ โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนน ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
สืบเนื่องจากผู้ต้องหาเปิดบริษัทเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรม ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยสร้างความน่าเชื่อถือในวงการผู้ประกอบการโรงแรมด้วยการเป็นนายหน้าโครงการอพาร์ทเมนต์ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ต่อมาเมื่อประมาณช่วงกลางปี 2562 ผู้ต้องหามีแผนการสร้างอพาร์ทเมนต์แห่งใหม่ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และติดต่อจ้างบริษัทของผู้เสียหายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างให้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว โดยหลังจากที่มีการทำสัญญาก่อสร้างอาคารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาทำทีเป็นขอชำระค่าก่อสร้างด้วยการออกเช็คจำนวน 3 ฉบับ เรียงตามระยะเวลาที่ผู้รับเหมาจะดำเนินงานทางผู้เสียหายตกลงรับการชำระค่าก่อสร้างด้วยเช็คเงินสด เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหานี้เครดิตดีมีความน่าเชื่อถือ ต่อมาเมื่อประมาณปลายปี 2562ครบกำหนดตามระยะเวลาการชำระค่าก่อสร้างตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ผู้เสียหายนำเช็คฉบับแรกไปเรียกเก็บเงินตามวิธีของธนาคาร ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย หลังจากนั้นผู้เสียหายพยายามติดต่อไปยังผู้ต้องหาเรื่อยมา แต่ถูกบ่ายเบี่ยง จนเมื่อถึงกำหนดชำระเงินของเช็คอีก 2 ฉบับ ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 2 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 15 ล้านบาทเมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อทวงถามให้ผู้ต้องหามาชำระหนี้ดังกล่าวกลับไม่สามารถติดต่อกับได้ ผู้เสียหายจึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนจนสืบทราบว่า น.ส.ปุณญรัชน์ หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงจับกุมตัวผู้ต้องหารับสารภาพ
