ตำรวจไซเบอร์จับตัวการใหญ่เปิดบัญชีม้าหลอกขายสินค้าออนไลน์พบของกลางเพียบ

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.กฤติเดช ชอบค้าขาย สว.สอบสวน กก.บก.สอท. 4 ร.ต.อ.อำพล ทองอร่าม รอง สว.ฯ นำกำลังเฝ้าสังเกตหน้าโรงภาพยนตร์ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พบนายพงษ์พัฒน์ ยนต์สุวรรณ อายุ 33 ปี รูปพรรณตรงตามบุคคลตามหมายจับ จึงควบคุมตัว โดยยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ตรวจค้นเบื้องต้นพบบัตร ATM บัญชีม้า แถว 2 อยู่ในกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มีการล็อกอินในฐานะแอดมินของบัญชีอินสตาแกรมชื่อ ntchtechstore ตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้ง นอกจากนั้นพบประวัติการสนทนาที่คนร้ายรับซื้อบัญชีม้าอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ทั้งนี้ก่อนจับกุม ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้หน่วยงานในสั่งกัดเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ การสืบสวนมีข้อมูลปรากฎเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนโดยคนร้ายมีพฤติการณ์ เปิดเพจ ขายคอมพิวเตอร์มือสองผ่าน อินสตาแกรมโดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินแล้วไม่ส่งสินค้า ตรวจสอบข้อมูลที่มีการแจ้งเตือนในเว็บไซด์ blacklistseller พบว่าเพจดังกล่าวมีพฤติการเปลี่ยนชื่อร้านไปเรื่อยๆ ปี 2020 : ntcstoremcth, ntchtechstore, ntmthstore และปี 2021 : ig ntnbtechstore, ntconlinestore, nthonlinestore มีผู้เสียหายลงข้อมูลแจ้งเตือนไว้ 55 รายการ ยอดเงิน 307,950 บาท และมีผู้เสียหายในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร มาร้องทุกข์ กับ กก.1 บก.สอท.4

ทาง พ.ต.อ.ศุภชัย ชัยสุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.4 จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.กฤติเดชนำกำลังไปสอบปากคำผู้เสียหายที่ จ.กำแพงเพชร แล้วรับคำร้องทุกข์ ร่วมทำรายงานการสืบสวน จนทราบกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิด 3 ราย และขออนุมัติศาลจังหวัดกำแพงเพชรออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย คือนายสุริยัน จันทร์แต่งผล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชรที่ 18/2565 ลง 26 ม.ค.65 จับกุมเมื่อวันที่ 26 มกราคม ในพื้นที่ ต.บางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา (บัญชีม้าแถว 1) น.ส.นิด (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชรที่ 19/2565 ลง 26 ม.ค.65 จับกุมเมื่อวันที่ 26 มกราคม ในพื้นที่ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง (บัญชีม้าแถว 2) และ 3.นายพงษ์พัฒน์ (ตัวการหลัก) รูปพรรณปรากฎตามภาพถ่าย ขณะที่ไปกดเงินจากตู้ ATM จากนั้นผู้ต้องหายินยอมและพาไปตรวจค้นที่พักอาศัยในคอนโดย่านอโศก พบเงินสด 1 แสนบาท, นาฬิกา Rolex GMT Green Hand, คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคารของบัญชีม้าแถว 2, บัตร ATM, บัญชีธนาคาร และซิมโทรศัพท์อีกจำนวนมาก

สอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลตามภาพถ่ายประกอบหมายจับจริงรับซื้อบัญชีม้าเพื่อมาใช้โกงจริงและเป็นเจ้าของเพจที่ใช้โกงจริง ตรวจสอบข้อมูลนายพงษ์พัฒน์เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง, พ.ร.บ.คอมพ์อีก 2 หมาย (สน.หัวหมาก, สภ.อุ้มผาง) ตรวจสอบข้อมูลประวัติในอินเตอร์เน็ต พบว่ามีประวัติเกี่ยวกับการฉ้อโกงจำนวนมาก และผู้ต้องหาทราบว่ามีหมายจับจึงพยายามระวังตัว ไม่ติดต่อกับใคร ใช้ข้อมูลปลอมในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ใช้บัญชีม้าในการใช้จ่าย, ย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ, ไม่ใช้ที่อยู่จริงในการรับพัสดุ โดยจะใช้ที่อยู่สาธารณะ และใช้วิธีรับโทรศัพท์และแจ้งพนักงานส่งของเพื่อนัดรับของ, เวลาเดินทางมักจะเดินทางโดยแกร็บและถ้าหากมีกรณีผู้เสียหายแจ้งความและติดต่อคนร้ายได้จะยอมคืนเงินทั้งหมดเพื่อให้ไม่เป็นคดีความ ในส่วนบัญชีและซิมโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะดำเนินการสืบสวนขยายผลหากลุ่มขบวนการที่รับจ้างเปิด หรือขายบัญชีต่อไป จึงนำตัวผู้ต้องหาควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดกำแพงเพชรต่อไป ส่วนโทรศัพท์ผู้ต้องหาจะส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจเพื่อหาข้อมูลเชื่อมโยงในการกระทำผิดอื่นต่อไป

ทั้งนี้ ประชาสัมพันธ์ประชาชน ในกรณีที่ถูกหลอกให้โอนเงินซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็น จาก Page Instagram เครือข่ายดังกล่าว หรือถูกหลอกให้โอนเงินเข้า บัญชีนายสุริยัน จันทร์แต่งผล หรือนายพงษ์พัฒน์ ยนต์สุวรรณ สามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สายด่วน 1441

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image