เร่งช่วยช้างป่า ส่งกลับคืนถิ่น หลังพลัดหลงติดป่าชายเลนดอนสัก
ความคืบหน้าการติดตามช่วยเหลือช้างพลายวัยรุ่นเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 4 ตัน พลัดหลงจากป่าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร มาหากินในเขตป่าชายเลน ต.ไชยคราม อ.ดอนสัก เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เพื่อเร่งดำเนินการให้ช้างป่ากลับคืนถิ่นที่อยู่อาศัยนั้น
(อ่านข่าว ระทึก ช้างหลงเข้าไปในป่าชายเลน ระดมกำลังช่วย หวั่นตกหล่ม)
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 30 มกราคม นายธัญนรินทร์ ณ นคร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สบอ.4) สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งยกเลิกภารกิจการติดตาม เนื่องจากทราบว่าช้างป่าดังกล่าวเข้าไปอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง และเกิดความตื่นกลัวเสียงเครื่องตีน้ำในนากุ้ง ประกอบกับไปเจอแสงไฟของชาวบ้านที่ออกไปหาปูแสมบริเวณป่าชายเลน ทำให้ช้างเปลี่ยนทิศทางการเดินมุ่งหน้ากลับเข้าไปยังบริเวณป่าชายเลนอีกครั้ง จึงเกรงว่าอาจจะทำให้ช้างเข้าไปติดหล่มโคลนเลนช่วยเหลือได้ยากลำบาก
นายธัญนรินทร์กล่าวว่า การถอนกำลังผลักดันช้างให้กลับออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน รวมถึงตัวช้างเอง แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ชุดแกะรอย จำนวน 7 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่มีความคุ้นเคยกับช้างตัวนี้มาก่อนเป็นผู้เฝ้าติดตามอยู่ โดยล่าสุดชุดแกะรอยแจ้งว่า พบช้างเคลื่อนตัวไปอยู่ในเขตป่าชายเลน บ้านเขาชะโงก พื้นที่หมู่ 7 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จำนวน 50 นาย ที่เตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่เข้าไปผลักดันอีกครั้ง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือชาวบ้านในเส้นทางที่ช้างเดินผ่านและมีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงให้ช่วยควบคุมดูแลไม่ให้สุนัขส่งเสียงเห่า เนื่องจากช้างกลัวเสียงสุนัข และขอความร่วมมือชาวบ้านที่พบเจอช้างไม่ให้ไล่หรือส่งเสียงรบกวน เนื่องจากเกรงช้างจะตื่นตกใจหนีเตลิดไปอีก
ข่าวแจ้งว่า คณะและเจ้าหน้าที่ ได้มี 2 แนวทางเพื่อผลักดันช้างป่าตัวดังกล่าว วิธีที่ 1 ผลักดัน บีบไล่ช้างให้กลับเอง เพราะช้างจะไปหาแหล่งน้ำจืด วิธีที่ 2 ยิงยาสลบ วิธีนี้จะใช้เป็นวิธีสุดท้าย เพราะอาจเกิดอันตรายต่อช้างได้ โดยพยายามใช้วิธีผลักดันให้มากที่สุด
